สตช.ยัดไส้ครม.ตั้งลูก”บิ๊กแป๊ะ”

03 ก.พ. 2563 | 02:48 น.

ตบตานายกฯ สตช.ยัดไส้คณะรัฐมนตรี ตั้งลูก “บิ๊กแป๊ะ”

 

วงการสีกากีสั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ “พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรรณรัตน์” รองผู้บังคับการกองอำนวยการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยื่นฟ้อง “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (สตช.) ในข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่กรณีโยกย้ายไม่เป็นธรรมต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งศาลเห็นว่า คดีมีมูลจึงสั่งให้ สตช.ส่งข้อมูลชี้แจงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจภายใน 30 วัน

มีรายงานว่า “การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ” ในปี 2562 สตช.แต่งตั้งนายตำรวจโดยไม่ได้ยึดระบบกฎเกณฑ์หลักความอาวุโส ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมา และยังฝืนหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโสตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

เมื่อมีชื่อของ “ร.ต.อ. ชานันท์ ชัยจินดา” รองสารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน “บุตรชาย” คนโตของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นหนึ่งในนายตำรวจที่ถูกเลื่อนยศและปรับตำแหน่งให้สูงขึ้น ทั้งที่การถือครองตำแหน่งยังไม่เข้าหลักเกณฑ์การพิจารณาของ สตช.โดย ร.ต.อ ชานันท์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสารวัตรโดยดำรงตำแหน่ง “ผู้บังคับการกองร้อย (สบ 2) กองกำกับการ 3กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน” ทั้งที่ยังดำรงตำแหน่งรองสารวัตรไม่ครบ 7 ปี ตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายของสตช.

จากข้อมูลเชิงลึก พบว่า การเลื่อนยศเป็น พ.ต.ต.ของบุตรชายคนโตของ ผบตร.นั้นทาง สตช.ใช้วิธีพิเศษด้วยการยื่นเรื่องให้ “คณะรัฐมนตรี” ของ พล.ต.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเพื่อมีมติให้ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส

ต่อมา ครม.ได้มีมติในวันที่ 30 เมษายน 2562 โดย “อนุมัติยกเว้น” การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่มิได้เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 จำนวน 4 ราย ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอมา ประกอบด้วย

1.พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติไม่ครบ 1 ปี
2.พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีมีอายุไม่ 59 ปีบริบูรณ์ และมีเวลาราชการเหลือเกินกว่า 6 เดือน
3.พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีมีอายุไม่ครบ 59 ปีบริบูรณ์ และมีเวลาราชการเหลือเกินกว่า 6 เดือน และ
4.ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองร้อย (สบ 2) กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจ ตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีมีระยะเวลา การดำรงตำแหน่งรองสารวัตรไม่ครบ 7 ปี

เมื่อพลิกประวัติการเข้ารับราชตำรวจของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ พบว่า ร.ต.อ.ชานันท์ ครองยศในตำแหน่ง รองสารวัตรเพียง 3 ปีกว่าๆเท่านั้น โดยจบจากคณะเทคโนโลยีการจัดการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และปริญญาโทที่ Bournemouth University ประเทศอังกฤษ

จากนั้นบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ยศ ร.ต.ต. ในตำแหน่งรองสารวัตรประมาณปี 2559 ในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปีได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ร.ต.อ. ก่อนที่ในปี 2562 จะได้รับการแต่งตั้งเป็นสารวัตร ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับกองร้อย (สบ 2) กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจ ตระเวนชายแดน

หากดูคำประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2561 ประกาศเอาไว้ว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 (2) มาตรา 45 วรรคหนึ่ง และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 44/2558 ลงวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ประกอบกับมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561 จึงออกกฎ ก.ตร.ไว้

เมื่อศึกษาดูจากกฎ ก.ตร.ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาดังกล่าว จะมีระเบียบที่เกี่ยวเนื่องกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะ ข้อ 14 การคัดเลือกหรือแต่งตั้งที่มิได้เป็นไปตามกฎ ก.ตร.นี้ จะกระทำมิได้เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร.และในกรณีมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาการตีความตามกฎ ก.ตร. นี้ ให้เสนอ ก.ตร.พิจารณาวินิจฉัยคำวินิจฉัยของ ก.ตร.ให้เป็นที่สุด

ส่วนการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตั้งแต่ระดับจเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงมาถึงระดับสารวัตร ให้ผู้มีอำนาจพิจารณาจากผู้ที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ ระดับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. เลื่อนเป็น จตช. และรอง ผบ.ตร. ยศ พล.ต.ท. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 1 ปี ผบช. เลื่อนเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยศ พล.ต.ท. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 1 ปี รอง ผบช. เลื่อนเป็น ผบช. ยศ พล.ต.ต. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 1 ปี ผบก. เลื่อนเป็น รอง ผบช. ยศ พล.ต.ต. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 2 ปี รอง ผบก. เลื่อนเป็น ผบก. ยศ พ.ต.อ. ซึ่งได้รับอัตราเงินเดือน พ.ต.อ.(พิเศษ) ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีคุณสมบัติครบถ้วนตากหลักเกณฑ์การเลื่อนยศเป็น พล.ต.ต.

ขณะที่ ผกก. เลื่อนเป็น รอง ผบก. ยศ พ.ต.อ. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 5 ปี รอง ผกก. เลื่อนเป็น ผกก. ยศ พ.ต.ท. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 4 ปี สว. เลื่อนเป็น รอง ผกก. ยศ พ.ต.ท. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 6 ปี ส่วน รอง สว.เลื่อนเป็น สว. ยศ ร.ต.อ. ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในแต่ละระดับไม่น้อยกว่า 7 ปี

นอกจากนี้ยังมีข้อ 24 ที่ระบุว่า การพิจารณาผู้เหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตั้งแต่ระดับสารวัตรถึงผู้บัญชาการตามข้อ 23 ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงอาวุโส ประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงานความประพฤติ และความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยให้เป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด นอกจากนี้ข้อ 28 มีใจความเกี่ยวกับการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้พิจารณาว่า ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละ 33 จำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่งในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และของหน่วยงานนั้น

การแต่งตั้ง ร.ต.อ.ชานันท์ ขึ้นเป็นสารวัตรทั้งที่ครองยศรองสารวัตรไม่ครบ 7 ปีจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความโปร่งใส แม้ว่าการแต่งตั้งดังกล่าวจะมีมติครม.ออกมารองรับเพื่อให้เกิดความความชอบธรรมในทางกฎหมายก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติถือเป็นการกระทำที่สวนทางหลักเกณฑ์เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายภายในสตช. เพราะยังมีตำรวจหลายนายที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งทั้งที่ครองยศและดำรงตำแหน่งตามหลักเกณฑ์ความอาวุโสถูกต้องครบถ้วนทุกอย่าง 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ สตช. จึงหนีไม่พ้นถูกต้องคำถามจากสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสียโอกาสเหล่านี้ ผบ.ตร.ต้องมีคำตอบให้กับสังคมได้ว่า บุตรชายของท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยมถึงได้เลื่อนยศตำแหน่งเป็นสารวัตรทั้งที่ความอาวุโสยังน้อยอยู่