“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

13 ม.ค. 2563 | 06:22 น.

พบฝุ่น PM2.5 คลุมจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้คุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ9ของโลก ด้านผู้ว่าฯจ่อลดการใช้รถส่วนตัวในเมือง

วันที่ 13 มกราคม 2563  ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดคุณภาพอากาศของประเทศไทย โดยตรวจสอบข้อมูลจาก แอพพลิเคชั่น AIR4Thai ของ กรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 09.00 น. รายงานสถานการณ์หมอกควัน PM2.5 บริเวณภาคเหนือ พบว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีค่าระหว่าง 24 – 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) พบพื้นที่เกินมาตรฐานกว่า 10 พื้นที่ ประกอบด้วย  ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง, ต.สบปาบ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

ขณะที่ล่าสุดเว็บไซต์ AirVisual ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานการจัดอันดับค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์รอบโลก ได้รายงานผลการจัดอันดับค่าฝุ่น พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ ของประเทศไทยมีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 174 US AQI ขณะที่ปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 99.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงติดอันดับที่ 9 ของโลก มีอันดัลสูงกว่า กทม. ที่อยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก ถึง 15 อันดับ โดยมีคำแนะนำ ระบุว่า สำหรับประชาชนในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากมลพิษทางอากาศประชาชนที่ไวต่อมลพิษมากกว่าคนทั่วไป: งดกิจกรรมนอกอาคารทุกชนิด ทำในอาคารแทน หรือเลื่อนเป็นวันอื่น ประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ควรงดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานาน ทำในอาคารแทน ส่วนประชาชนทั่วไป ลดกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักหรือเป็นเวลานาน ควรพักบ่อยๆ*กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่อยู่ใกล้แหล่งกำเนิดมลพิษ ทำงาน ออกกำลังกาย เล่นกีฬา กลางแจ้ง หรือผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ ภูมิต้านทานต่ำ ระบบการหายใจ หัวใจ และหลอดเลือดสมอง

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา จำนวนมาก ร่วมกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาฝุ่นควันและปัญหาผลกระทบจากไฟป่าในเขตเมือง ภายใต้แนวคิด ร่วมใจไม่ขับ ช่วยดับเครื่องยนต์ ลดฝุ่น PM2.5 ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ เพื่อให้ประชาชนตระหนักในปัญหาฝุ่นควัน ที่เกิดมาจากการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อีกทั้งเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับประชาชนในการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว และการดูแลรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้มีมลพิษ

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก 

สืบเนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์กว่า 4 แสนคัน และรถจักรยานยนต์มากกว่า 1 ล้าน3แสนคัน เมื่อมีการใช้ยานพาหนะเหล่านี้ ก็จะเกิดการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนในเขตเมือง บริเวณที่มีการจราจรคับคั่ง หรือบริเวณโรงเรียนต่างๆที่มีการรับส่งนักเรียน รวมถึงการใช้รถยนต์ดีเซลที่มีควันดำเกินมาตรฐาน ซึ่งเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

ภายในงานมีตัวแทนนักเรียนจาก โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ เรื่องการลดปริมาณการใช้รถยนต์ในเขตเมืองเชียงใหม่ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน รวมถึงการแสดงบนเวทีจากนักเรียนโรงเรียนสันกำแพง นอกจากนี้ยังการปล่อยขบวนรถฉีดน้ำกว่า 10 คัน เพื่อชำระล้างถนนบริเวณรอบคูเมือง ลดการกระจายตัวของฝุ่นละออง รวมถึงมีการตั้งกล่องรับบริจาคสมทบทุน นำไปต่อยอดในการช่วยกันแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน เพื่อลมหายใจที่ดีของประชาชนชาวเชียงใหม่อีกด้วย

“เชียงใหม่”วิกฤติ ติดท็อปเท็น “อากาศแย่” ของโลก