เอสแอนด์พี ดีเดย์ งดให้บริการถุงพลาสติก 

จากการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอนโยบายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ให้เลิก และลด การใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ทั้งในห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ส่วนของ “เอส แอนด์ พี” ซึ่งทำธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่ ก็ไม่นิ่งนอนใจ และสนองตอบนโยบายนี้ ด้วยการประกาศงดแจกถุงพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เช่นกัน

“มณีสุดา ศิลาอ่อน” ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บมจ.เอส แอนด์ พี ซินดิเคท บอกว่า เอส แอนด์ พี ได้วางกลยุทธ์แบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตระหนักถึงปัญหาของขยะพลาสติก จึงมีนโยบายงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการลดปัญหาขยะดังกล่าว พร้อมกับช่วยรณรงค์ กระตุ้นจิตสำนึกด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภค แต่เพื่อความสะดวกกับลูกค้าในระยะแรก คือ ช่วงเดือนมกราคม 2563 เอส แอนด์ พี จะมีถุงผ้าสปันบอนด์แจกให้กับลูกค้า เพื่อช่วยเหลือในการปรับตัว และยังทำให้ลูกค้าสามารถนำถุงผ้านำกลับมาใช้ซํ้าได้อีกด้วย

เอส แอนด์ พี มีการดำเนินงาน การลดการใช้ (Reduce) การนำกลับมาใช้ซํ้า (Reuse) และการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง (Recycle) และยังดำเนินธุรกิจบนหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล ตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมาย 5 ข้อ ได้แก่ การขจัดความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน (Zero Hunger) การรับรองการมีสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนทุกช่วงอายุ (Good Health and well-being) ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุมและยั่งยืน การจ้างงานที่มีคุณค่า (Decent Work and Economic Growth) การรับรองแผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) และสร้างพลังแห่งการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระดับสากลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Partnerships for the Goals)

ก่อนหน้านี้ เอส แอนด์ พี ได้พยายามปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ และลดการใช้หลอดพลาสติกมาใช้เป็นหลอดกระดาษ และหลอดพลาสติกแบบช้อนที่ย่อยสลายได้ (ไบโอพลาสติก) นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการสั่งผลิตหลอดกระดาษขนาดพิเศษ

ส่วนบรรจุภัณฑ์อาหารและขนม ได้เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ทดแทนพลาสติก หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ อาทิ บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารจากเยื่อกระดาษขึ้นรูป (Pulp Mold) กล่องสแน็กบ็อกซ์กระดาษคราฟต์รักษ์โลก โดยมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อ เป็นการสร้างพฤติกรรมการใช้ซํ้า เช่น กล่องคุกกี้ กล่องขนมไหว้พระจันทร์ และถุงผ้า เป็นต้น ทำให้สามารถลดการใช้พลาสติกไปแล้วกว่า 77 ตัน ในปี 2562 และสามารถลดขยะหลอดพลาสติกได้ถึงปีละกว่า 3 ล้านชิ้น

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,536 วันที่ 2 - 4 มกราคม พ.ศ. 2563