คลังมั่นใจมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ระบายสต๊อกท้ายปี3.5หมื่นยูนิต

01 พ.ย. 2562 | 07:39 น.

 


คลัง มั่นใจ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ช่วยระบายสต๊อกท้ายปีได้ 35,000 ยูนิต แม้ไม่ทำปีนี้ตลาดโต แต่เชื่อปีหน้าได้ 5-7% แน่ พร้อมรับไปคุยธปท.ปลดล็อคมาตรการ LTV อยากให้กู้ได้ 100% พร้อมเข็นแคมเปญใหญ่ดันยอดขายโตต่อเนื่อง


นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่กระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมกับภาคเอกชนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในวันนี้ว่า มาตรการอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับลดค่าจดจำนอง และค่าโอน เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงิน 50,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีส่วนช่วยระบายสต๊อกของผู้ประกอบการที่มีอยู่ทั้งสิ้น 35,000 ยูนิต และทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าขยายตัว 5-7% 

คลังมั่นใจมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ระบายสต๊อกท้ายปี3.5หมื่นยูนิต

ทั้งนี้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเร่งให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศลดค่าโอน และจดจำนอง เพื่อให้มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกาพิจารณาในรายละเอียด ขณะเดียวกัน ภายหลังการประกาศแล้ว กระทรวงการคลังจะร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นยอดขายภายในงานด้วย 

นอกจากนี้จะเสนอให้ นายอุตตม เร่งหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แก้ไขหลักเกณฑ์มาตรการกำกับดูแลสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) โดยจะเสนอให้สามารถกู้ได้ 100% โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นบ้านหลังแรกเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอของผู้ประกอบการ 

นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย ยอมรับว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะไม่ขยายตัว แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐออกมา เนื่องจากยอดขายในไตรมาส 2-3 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมปรับตัวลดลงถึง 20% ขณะที่บ้านจัดสรรอยู่ในระดับทรงตัว และคาดว่าในไตรมาส 3 กลุ่มบ้านจัดสรรจะติดลบเล็กน้อยเช่นเดียวกัน เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ 

อย่างไรก็ตาม มองว่า หากไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เข้ามา จะส่งผลให้ยอดขายที่อยู่อาศัยมในปีนี้จะถดถอยจากปีก่อน โดยจะมียอดขายอยู่ที่ 175,000 ยูนิต จากปีก่อนที่มียอดขาย 196,000 ยูนิต 

คลังมั่นใจมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ระบายสต๊อกท้ายปี3.5หมื่นยูนิต

“หากไม่มีมาตรการอะไรเลย คาดว่าอสังหาริมทรัพย์จะทรงตัวในระดับที่ถดถอย และอยากให้รัฐบาลเร่งประสานงานเพิ่มเติมกับ ธปท. เพื่อคลายเกณฑ์ LTV ซึ่งหากทำได้จะทำให้มีสัญญาณที่ดีขึ้น และหากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เร็ว อาจทำให้เกิดการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม”นางอาภา กล่าว 

ขณะที่นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ยอมรับว่า ขณะนี้เกิดสูญญากาศในการโอนที่อยู่อาศัย เนื่องจากประชาชนรอมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการบางราย ได้จัดโปรโมชั่น จ่ายค่าโอน และจดจำนองให้กับลูกค้าไปก่อนในอัตรา 0.01% เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเร่งโอนก่อนมาตรการ

ด้านนางสาวสุนันทรา มหาประสิทธิ์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA กล่าวว่า ยอมรับว่า มาตรการอสังหาริมทรัพย์ของรัฐที่ออกมานั้นตอบโจทย์ภาคอสังหาฯได้ดี แต่ค่อนข้างล่าช้า จึงทำให้อาจไม่เห็นผลในปีนี้ แต่หากเป็นมาตรการระยะยาวต่อเนื่องถึงปี 2563 คาดว่าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์แน่นอน

พร้อมยอมรับว่า มาตรการ LTV เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง ดังนั้นหากกระทรวงการคลังสามารถหารือกับ ธปท.เพื่อคลายเกณฑ์ดังกล่าวได้จะช่วยฟื้นภาคอสังหาริมทรัพย์ได้มาก 

คลังมั่นใจมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ระบายสต๊อกท้ายปี3.5หมื่นยูนิต

“ตอนนี้ที่ต้องติดตาม คือ มาตรการที่กระทรวงการคลังจะทำเพิ่มเติมหากกลุ่มบ้าน 3 ล้านบาทได้ผล อาจจะมีเรื่องของบ้าน 4-5 ล้านเข้ามาด้วย แต่ต้องดูว่าจะเป็นทิศทางอย่างไร รวมถึงอีกส่วนคือ บ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไปที่อยากจะให้กู้ได้ 100% นั้นจะทำได้ไหม”นางสาวสุนันทรา กล่าว