เงินบาทเปิดอ่อน

28 ต.ค. 2562 | 01:23 น.

เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.20 บาท อ่อนค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.16 บาท

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์นักกลยุทธตลาดเงินและตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า  ในช่วงนี้เงินบาทถือว่าเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าน้อยกว่า Emerging Markets อื่นๆ เพราะปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้าแล้วในระหว่างสัปดาห์เชื่อว่าเงินบาทจะแกว่งตัวแคบๆ เท่านั้นเพราะมีเหตุการณ์ที่ต้องระวังหลายอย่าง ถ้าสหรัฐไม่ลดดอกเบี้ย อาจกดดันให้เงินบาทและสกุลเงินเอเชียอ่อนค่าขึ้นได้ แต่ต้องระวังช่วงวันศุกร์ เพราะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะส่งผลให้ตลาดกลับมาผันผวน

กรอบค่าเงินบาทวันนี้ 30.15-30.25 บาทต่อดอลลาร์

กรอบค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ 29.80-30.30 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ตามในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนตลาดการเงินอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่องและดัชนีหุ้นสหรัฐ S&P500 ปรับตัวขึ้นปิด 3022 ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเพียง 3จุด ด้วยประเด็นหลักสองเรื่องคือ รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐขยายตัวดี ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็คืบหน้าระดับ “ข้อตกลงทั่วไปเสร็จสมบูรณ์แล้ว” อาจนำไปสู่การลงนามระยะแรกระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และสี จิ้นผิงที่จะพบกันในการประชุม APEC summit ที่ชิลีเดือนหน้า

 

ขณะที่ในสัปดาห์นี้ ประเด็นหลักที่ต้องจับตามีมากมายเริ่มต้นตั้งแต่วันพุธ ที่จะมีการประกาศตัวเลขจีดีพีสหรัฐไตรมาสที่สามครั้งแรก คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.6% จากไตรมาสก่อน (ปรับเป็นรายปี) ขณะเดียวกันก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ด้วย ครั้งนี้เราคาดว่า FOMC จะมีมติ “ลด” อัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงมาที่ระดับ 1.5-1.75% และน่าจะมีการระบุว่าเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของการปรับสมดุลย์ทางการเงินรอบนี้

ในวันพฤหัส คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีมติ “คง” นโยบายการเงินไว้ตามเดิมอย่างไรก็ดี ประเด็นหลักที่ตลาดกำลังตั้งข้อสังเกต คือความเห็นของธนาคารกลางญี่ปุ่นล่าสุด ที่ระบุว่าเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ขณะที่ทั้งอเมริกาและยุโรป ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายกันหมดแล้ว จึงน่าสนใจว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในอนาคตด้วยหรือไม่

และในวันศุกร์ ต้องจับตาไปที่ตัวเลขตลาดแรงงานในสหรัฐฯครั้งนี้เราเชื่อว่าการจ้างงานนอกภาคการเกษตรมีโอกาสชะลอตัวมาที่ระดับ 100,000 ตำแหน่งหรือต่ำกว่า เนื่องจากการประท้วงหยุดงานของบริษัท General Motors กว่า 50,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้อัตราการว่างานปรับตัวขึ้นสูงจากปัจจุบันที่ 3.5% อย่างมีนัย และค่าจ้างเฉลี่ยรายสัปดาห์น่าจะเพิ่มขึ้นได้จากเดือนก่อนหน้าราว 0.2%