นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาเรื่องแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร พาราควอต ไกลโฟเซตและคลอร์ไพริฟอส โดยระบุว่า
มีผู้เข้าประชุม 26 ท่าน
1. พาราควอท
-แบน 21 จำกัดการใช้ 5
2. ครอร์ไพริฟอส
-แบน 22 จำกัดการใช้ 4
3.ไกลโฟเซต
-แบน 19 จำกัดการใช้ 7
ทั้งนี้การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 41-9/2562 วันที่ 22 ตุลาคม 2562 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ปรับวัตถอันตรายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4
การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันนี้ ได้มีการพิจารณาเรื่องที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เทมการพิจารณาปรับวัตถุอันตรายพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการ เกษตร จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป
คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาข้อมูล ประกอบด้วย ผลการดําเนินการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ เดินาบัญชานายกรัฐมนตรีไปดําเนินการ โดยมีการแต่งตั้งคณะทํางานพิจารณา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงาน ว่าได้มีการพิจารณาข้อมูลวิธีการและสารทางเลือกในการจัดการวัชพืช ต้นทุนของวิธีการและสารทางเลือก ข้อมูลสาร ทดแทนสารคลอร์ไพริฟอส ปริมาณสารที่คงเหลือ ณ ปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นว่าสามารถบริหาร จัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติได้ หากยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการ และผู้แทนหน่วยงานของ กระทรวงสาธารณสุข ได้นําเสนอข้อมูลความเป็นอันตราย และข้อมูลการตรวจสอบเฝ้าระวังสารตกค้างในสินค้า เกษตรในท้องตลาด นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้นําข้อมูลและข้อเสนอที่ได้รับจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ ต้องการให้ยกเลิกการใช้ และส่วนที่ไม่เห็นด้วยหากจะยกเลิกการใช้ มาพิจารณาในที่ประชุมด้วย
คณะกรรมการฯ ได้มีการลงมติแบบเปิดเผย เช่นเดียวกับทุกครั้งที่มีการลงมติ ผลการลงมติคือ พาราควอต ยกเลิกการใช้ภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2562 จํานวน 20 คน ยกเลิกการใช้ในวันที่ 9 ธันวาคม 2564 จํานวน 1 คน จํากัดการใช้ จํานวน 5 คน ไกลโฟเซต ยกเลิกการใช้ จํานวน 19 คน จํากัดการใช้ จํานวน 7 คน คลอร์ไพริฟอส ยกเลิกการใช้ จํานวน 22 คน จํากัดการใช้ จํานวน 4 คน
มติที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ปรับวัตถุอันตรายพาราควอต คลอร์ไพริฟอ และไกลโฟเซต ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2562 โดยมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปดําเนินการยกร่างประกาศกระทรว ด้วยบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น แล้วเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นใน ประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ ได้ขอให้กรมวิชาการเกษตรไปพิจารณาระยะเวลา ความเหมาะสมในการบริหารจัดการ อันตรายที่ยังคงเหลืออยู่หลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ โดยคํานึงถึงผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรกร หรือ จําหน่าย เป็นต้น โดยให้รับรองมติในที่ประชุม