บลจ.ยูโอบี แนะลง LTF รับจังหวะตลาดหุ้นผันผวน
บลจ. ยูโอบี(ประเทศไทย) แนะจังหวะดี ที่จะเข้าซื้อ LTF ช่วงหุ้นไทยผันผวน ชู 2 กองทุนคู่หู 'CG-LTF' และ'UOBLTF' ด้วยสไตล์ลงทุนที่
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า บลจ. ยูโอบีมองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่ดีจากความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 215.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงแก่ภาพรวมเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนและตลาดหุ้นไทยที่จะสามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังผันผวน จากปัจจัยลบต่างๆ ทั้ง ปัจจัยสงครามการค้าที่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตชะลอตัว ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับภาคส่งออกและการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากค่าเงิน จึงถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวจากกองทุน LTF ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีกองทุน LTF อยู่ในพอร์ตเพื่อสิทธิในการประหยัดภาษี อีกทั้งโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
“เรามองว่า เป็นจังหวะดีที่จะเข้าลงทุนในกองทุน LTF โดยเราได้คัดสรรกอง CG-LTF และ UOBLTF ซึ่งเป็นกองทุนคู่หูที่มีสไตล์การลงทุนที่แตกต่าง แต่สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีในระยะยาวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน พร้อมด้วยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญบริหารกองทุนเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว” นางสาวรัชดา กล่าว
ทั้งนี้กองทุน ‘CG-LTF’ หรือ ‘กองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว’ เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีระบบธรรมาภิบาลที่ดี มีปัจจัยพื้นฐานโดดเด่นและโอกาสเติบโตสูง โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี (ณ 31 กรกฎาคม 2562) 15.19% ต่อปี สูงกว่า SET TRI ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 14.60% ต่อปี ขณะที่กองทุน ‘UOBLTF’ หรือ ‘กองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว’ ที่มีจุดเด่นของกองทุนคือ จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีฐานะการลงทุนสุทธิในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารทางการเงิน และ/หรือตราสารแห่งหนี้ต่างๆ โดยจะมุ่งเน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง
