3 บิ๊กค้าข้าวชี้ เป้า 9 ล้านวืด

29 ส.ค. 2562 | 23:30 น.

ส่งออกข้าวไทยหืดจับ ปัจจัยใน-นอกรุมเร้า ทั้งบาทแข็ง ภัยแล้ง จีนคู่ค้ากลายเป็นคู่แข่ง บิ๊กทรีวงการ “เอเซีย โกลเด้น ไรซ์-นครหลวง-ธนสรร” ยันปีนี้แค่ประคองธุรกิจให้อยู่รอด เป้าประเทศ9 ล้านตันโอกาสวืดสูง

เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ปรับลดเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยปี 2562 จาก 9.5 ล้านตัน ลงเหลือ 9 ล้านตัน จากมีปัจจัยลบทั้งเงินบาทแข็งค่ามากส่งผลราคาส่งออกข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งขัน จีน 1 ในประเทศคู่ค้าสำคัญมีสต๊อกข้าวมาก ความต้องการนำเข้าข้าวลดลง ภัยแล้งส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลง ราคาข้าวสูงขึ้น ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น สวนทางกับสถานการณ์ส่งออกชะลอตัวลงในทุกตลาด ทำให้เป้าหมายส่งออก 9 ล้านตันยังต้องลุ้นว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะจากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ระบุช่วง 7 เดือนแรก ปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้แล้ว 4.90 ล้านตัน หมายความว่าอีก 5 เดือนที่เหลือต้องส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 8.18 แสนตันจึงจะบรรลุเป้าหมาย

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีโอกาสสูงที่การส่งออกข้าวไทยปีนี้จะไม่ถึง 9 ล้านตัน (ปี 2561 ส่งออก 11.2 ล้านตัน มูลค่า 1.82 แสนล้านบาท) จากมีหลายปัจจัยลบ ที่สำคัญได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่ามาก ทำให้ข้าวไทยเสียเปรียบและแข่งขันยาก เช่น ข้าวหอมมะลิราคาเอฟโอบีเวลานี้ต้องขายที่ 1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เทียบข้าวหอมเวียดนาม(ที่มีเกรดรองกว่า)ขายที่ 550 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ,ข้าวเหนียวไทย 1,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เทียบข้าวเหนียวเวียดนามขายที่กว่า 600 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน, ข้าวนึ่งไทย 420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เทียบข้าวนึ่งอินเดียขายที่ 390 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ซึ่งจะเห็นว่าราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งทุกตัว จากผลพวงเงินบาทแข็งค่าและต้นทุนข้าวสูง ทำให้ขายได้ลดลง

ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งที่เวลานี้คาดจะทำให้ผลผลิตข้าวในภาคอีสานซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิที่เพิ่งเริ่มปลูกได้รับความเสียหายแล้วไม่ตํ่ากว่า 10% หากไม่มีนํ้าเติมคงได้รับความเสียหายมากขึ้น ส่วนที่เสียหายแล้วและมีการปลูกใหม่คาดการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะล่าช้าไปจากเดิมไม่ตํ่ากว่า 1 เดือน หรือเก็บเกี่ยวช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมปีหน้า ซึ่งจะมีผลให้ราคาข้าวมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นไปอีก (จาก ณ วันที่ 27 ส.ค. 62 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยที่ 1.6-1.8 หมื่นบาทต่อตัน และราคาข้าวสารหอมมะลิเฉลี่ย 3.4-3.6 หมื่นบาทต่อตัน) ยิ่งกระทบความสามารถแข่งขันส่งออก

3 บิ๊กค้าข้าวชี้ เป้า 9 ล้านวืด

“เงินบาทแข็งค่ามาก แต่ค่าเงินของคู่แข่งเช่นเวียดนาม อินเดียยังอ่อนค่า ทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนฟิลิปปินส์เปลี่ยนนโยบายให้เอกชนที่ได้รับใบอนุญาตสามารถนำเข้าข้าวได้โดยเสรีโดยเก็บภาษี 35% จากเดิมมีการกำหนดโควตานำเข้า ซึ่งพอปล่อยฟรีผู้นำเข้าฟิลิปปินส์ก็ไปนำเข้าจากเวียดนามที่ราคาถูกกว่า ส่วนฮ่องกงที่เวลานี้ยังมีการชุมนุมประท้วง หากยังยืดเยื้อ จะกระทบเศรษฐกิจและการบริโภคที่ลดลง จากในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวไปฮ่องกงกว่า 40 ล้านคน ชาวฮ่องกงอีก 7 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลต่อการนำเข้าข้าวที่ลดลง”

“ฐานเศรษฐกิจ”ได้สอบถามไปยังผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ 3 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มเอเซีย โกลเด้น ไรซ์, กลุ่มนครหลวงค้าข้าว และกลุ่มธนสรร ไรซ์ ผู้บริหารทุกบริษัทต่างยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ลำบาก

นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเซีย โกลเด้น ไรซ์ จำกัด(บจก.) กล่าวว่า การส่งออกข้าวของบริษัทและภาพรวมของประเทศเวลานี้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี จากราคาข้าวไทยสูงโด่งตามเงินบาทที่แข็งค่า เช่น ข้าวขาว 5% เวลานี้ราคาเอฟโอบีไทยขายที่ 405 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ขณะอินเดียอยู่ที่ 370-375 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน คู่ค้าหันไปนำเข้าจากอินเดีย รวมถึงเวียดนามมากขึ้น ส่วนที่จีนหนึ่งในคู่ค้าสำคัญมีการนำเข้าข้าวลดลงจากเงินหยวนอ่อนค่า และเศรษฐกิจจีนชะลอตัวจากสงครามการค้า อีกด้านจีนได้นำข้าวเก่าในสต๊อกมาขายแข่งราคาตํ่าในตลาดแอฟริกาที่เป็นหนึ่งในตลาดหลักของไทย

 

 

ส่วนสถานการณ์ในประเทศผลจากภัยแล้ง ผู้ค้าข้าวในประเทศและผู้ส่งออกแข่งซื้อข้าวเก็บเพราะเกรงไม่มีข้าวส่งมอบลูกค้า ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกและข้าวสารแนวโน้มสูงขึ้น ผู้ส่งออกที่รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าถึงเวลาต้องซื้อส่งมอบเพื่อรักษาลูกค้า ขาดทุนก็ต้องยอม เพื่อประคองธุรกิจ และคนงานในปีนี้ให้อยู่รอด การส่งออกข้าวของบริษัทช่วง 7 เดือนแรกปริมาณลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ปี 2561 กลุ่มเอเซีย ส่งออกข้าว 1.56 ล้านตัน) อยากฝากกระทรวงพาณิชย์เร่งฟื้นตลาดข้าวอิรักขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีช่องทางส่งออกเพิ่มขึ้น

นายวัลลภ พิชญ์พงศา รองกรรมการผู้จัดการ บจก.นครหลวงค้าข้าว กล่าวว่า ปีที่แล้วบริษัทส่งออกข้าวได้ 1.50 ล้านตัน ปีนี้ยังต้องลุ้นว่าจะได้เกิน 1 ล้านตันหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คงลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมากทั้งค่าเงิน ต้นทุน คำสั่งซื้อที่ลดลง และคู่แข่งขัน

เช่นเดียวกันนายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บจก.ธนสรร ไรซ์ ที่เผยว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทส่งออกข้าวได้ 9.05 แสนตัน ต้นปีที่ผ่านมาตั้งเป้าส่งออกปี 2562 ที่ 8 แสน-1 ล้านตัน ล่าสุดตัวเลข 6 เดือนแรก บริษัทส่งออกแล้วกว่า 4 แสนตัน ซึ่งด้านปริมาณและมูลค่าลดลงกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดการส่งออกของบริษัทปีนี้น่าจะทำได้ที่ 6-7 แสนตันตํ่ากว่าเป้าหมาย ซึ่งผู้ส่ง
ออกข้าวทุกรายก็มีสภาพที่ไม่ต่างกัน ถือเป็นปีที่ต้องประคองธุรกิจให้มีรายได้และกำไรพออยู่รอด เป้ารวมประเทศ 9 ล้านตันคงไม่ถึง 

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3500 วันที่ 29-31 สิงหาคม 2562

3 บิ๊กค้าข้าวชี้ เป้า 9 ล้านวืด