โบรกจ่อทบทวนกำไรบจ. สงครามการค้ารอบใหม่ฉุด SET ปรับลดลง3-4%

12 พ.ค. 2562 | 03:30 น.

 

โบรกฯจ่อทบทวนกำไรบจ.-ดัชนีหุ้นไทย ประเมินสงครามการค้ารอบใหม่ SET Index ปรับลดลง 3-4%  แนะทยอยซื้อหากดัชนีตํ่ากว่า 1630 จุด เมย์แบงก์ ชี้กรณีเลวร้าย สหรัฐฯ เก็บภาษี 25% วงเงินที่เหลือ 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดหุ้นโลกเข้าสู่ภาวะ risk off หุ้นไทยหลุด 1600 จุด

จากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน  2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 25% จากปัจจุบันเก็บที่ 10% โดยมีผลเมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม เวลา 00.01 . (ตามเวลาในสหรัฐฯ) อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่า จะเก็บวงเงินที่เหลืออีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือไม่

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ (ASP) กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า ทางฝ่ายวิจัยฯอยู่ระหว่างศึกษาผลของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในสุดสัปดาห์นี้ (10-11 ..62) ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 25% จากปัจจุบันที่เก็บ 10% เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐ กิจทั่วโลก และกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปีนี้เพิ่มแน่นอน

โบรกจ่อทบทวนกำไรบจ. สงครามการค้ารอบใหม่ฉุด SET ปรับลดลง3-4%

 “ASP ต้องทบทวนตัวเลขใหม่ โดยเฉพาะกำไรบจ. และเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยจากปัจจุบันที่ยังคงไว้ 1705 จุด โดยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตเพียง 3.5% และส่งออกไม่โต เพราะนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีสินค้านําเข้าจากจีนรอบแรกวงเงิน 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบอย่างมากแล้ว หากสหรัฐฯจะขึ้นภาษีจีนรอบนี้อีก วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น  25%  ผลกระทบจะมากกว่าเดิมแน่นอน” 

ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ฯ  ระบุว่าการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (10 .. 62) เชื่อว่าการขึ้นภาษีจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เหตุผลหนึ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเพราะสหรัฐ ฯยังคงขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจาก 3.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 สู่ 4.19 แสนล้านสหรัฐในปี 2561 ทั้งๆที่มีข้อพิพาททางการค้าและมีการปรับภาษีนำเข้าใหม่ในปี 2561

อย่างไรก็ตามหากสงครามการค้ายกระดับความรุนแรงมาก สหรัฐฯ เก็บภาษี 25% กับสินค้านําเข้าจากจีนส่วนที่เหลือ 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนออกมาตรการตอบโต้ ผลกระทบอาจจะมีมากขึ้น และรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม รวมถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

ส่วนผลต่อตลาดหุ้นไทย  คาด SET Index  อาจปรับตัวลดลง 3-4% บนสมมติ ฐานที่ว่า 1. การขึ้นภาษีนําเข้าจากจีนเกิดขึ้นชั่วคราว 2. สหรัฐฯและจีน มีทางเลือกในการใช้นโยบายเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจหากจําเป็น และ 3. รัฐบาลไทยออกมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท คาด SET Index  กรอบล่างจะอยู่ที่ 1630 จุด   Forward P/E  12 เดือน ที่ 14.6 เท่า

แต่หากเกิดกรณีเลวร้าย กล่าวคือ สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนําเข้า 25% จากสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกินเวลายาว 1 ปี ค่า Forward P/E อาจตกลงไปอยู่ที่ 1 Standard Deviation ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย (P/E ที่ 14.1 เท่า) หรือกรณีเลวร้ายที่สุดที่ 2 Standard Deviation ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย (P/E ที่ 13.5 เท่า) ซึ่งมองว่าเป็นไปได้ยาก แนะลูกค้าซื้อหุ้นไทย หากดัชนี SET ปรับลดลงตํ่ากว่าระดับ 1630 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์ใน 3 กรณี 1. หากสหรัฐฯยืนกรานขึ้นภาษี 25% บนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาด SET Index ตอบรับไปบางส่วน ประเมินแกว่งในกรอบ 1620 จุดบวก/ลบ แนะสะสมหุ้นค้าปลีกที่ได้รับผลจำกัด อย่าง BJC กรณีที่ 2 หากสหรัฐฯ ขึ้นทั้งภาษี 25% และในส่วนของสินค้า 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย มีโอกาสที่ตลาดหุ้นโลกจะเข้าสู่ภาวะ risk off ประเมินแนวรับแรกบริเวณ 1585-1600  จุด แนะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความคืบหน้าของการเจรจาในครั้งถัดไป และ 3. กรณีเป็นเพียงการขู่เพื่อให้จีนยอมรับข้อตกลง จนทำให้สหรัฐฯยกเลิกภาษีการค้าทั้งหมด คาดตลาดหุ้นทั่วโลกเกิด technical rebound ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งไซด์เวย์อัพ กรอบ 1655-1700 จุด แนะสะสมหุ้น โลจิสติกส์และพลังงาน

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,469 วันที่ 12-15 พฤษภาคม 2562

                                                        โบรกจ่อทบทวนกำไรบจ. สงครามการค้ารอบใหม่ฉุด SET ปรับลดลง3-4%