ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ ( 26 มี.ค.) ที่ 25,657.73 จุด เพิ่มขึ้น 140.90 จุด หรือเพิ่ม 0.55% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,818.46 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือเพิ่ม 0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,691.52 จุด เพิ่มขึ้น 53.98 จุด หรือเพิ่ม 0.71%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น 1.9% ขานรับการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.03% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 2.3% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2.5% และ หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2.9%
รวมทั้งหุ้นกลุ่มธนาคารปรับสูงขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 3 ปีปรับตัวลดลง ซึ่งช่วยให้เส้น Inverted yield curve หรือเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีความลาดน้อยลง ช่วยคลายความกังวลที่ห่วงว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ นำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 28-29 มี.ค.นี้