'อาคม' รับลูก "บิ๊กตู่" สั่ง ทอท. เบรกประมูล "ดิวตี้ฟรี" แสนล้าน ลั่น! ต้องหารือคลัง ผลักดันเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2562 ชี้! หากไม่เข้าข่ายต้องทำตามขั้นตอน ก.ม. เข้า ครม.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับฝ่ายบริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ถึงเรื่องการเปิดประมูลสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่ขายสินค้าปลอดอากร หรือ ดิวตี้ฟรี ว่า ขอให้ ทอท. ชะลอการออกประกาศเชิญชวนขายทีโออาร์ประมูลออกไปก่อน พร้อมเร่งหารือกับบอร์ดเพื่อทบทวนรูปแบบใหม่
โดยให้นำประเด็นที่หลายฝ่ายแสดงความห่วงใย ทั้งองค์กรต่าง ๆ สมาคม และผู้ประกอบการของทุกฝ่าย เข้าไปพิจารณาให้รอบคอบ รวมทั้งหารือกับกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการ เพื่อศึกษาว่า โครงการเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2562 หรือไม่ หากไม่เข้าข่ายตามกฎหมาย ก็จะต้องทำตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สั่งการให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดกลไกกลาง เพื่อที่จะทำให้โครงการที่ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2562 สามารถประมูลอย่างโปร่งใสได้ ซึ่ง ทอท. อาจจะต้องกลับไปหารือ ว่า ควรจะทำอย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ดี จากการชะลอเปิดประมูลโครงการดังกล่าว ทอท. จะต้องเร่งหารือกับบอร์ดเพื่อปรับกรอบเวลาดำเนินงาน ทั้งประกาศเชิญชวน เอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) กำหนดขายซอง และการยื่นข้อเสนอ โดยขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนรูปแบบการประมูลจะแบ่งสัญญาเป็นรายสินค้าหรือไม่
"ขอให้ ทอท. พิจารณาให้รอบคอบ แต่เบื้องต้นก็พบว่า การแบ่งสัญญาเป็น 3 กลุ่ม คือ พื้นที่เชิงพาณิชย์ ดิวตี้ฟรี และพิคอัพเคาท์เตอร์ ก็ถือว่าดีแล้ว แต่ขอให้ไปดูอย่างรอบคอบอีกครั้ง และเรื่องนี้ มติ ครม. มอบให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ เรื่องการพิจารณาโครงการ ว่า เข้าข่าย หรือ ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน และยังมีกระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันพิจารณาเพื่อความรอบคอบ" นายอาคม กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การเปิดขายซองประมูลในครั้งนี้ เป็นการข้ามขั้นตอน เพราะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐและเอกชน ปี 2562 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่ตีความเอง ต้องถามกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในประเด็นที่ว่า ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน มาตรา 4 และมาตรา 7 กิจกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการบินหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น คาร์โก, คลังสินค้า, ร้านค้าเชิงพาณิชย์, ดิวตี้ฟรี, นักท่องเที่ยว นักเดินทาง ต้องใช้กิจกรรมเหล่านี้หรือไม่ และต้องไปดูว่า สนามบินทั่วโลกเขามีหลักการทำกันอย่างไร สิ่งเหล่านี้กฏหมายกำหนดไว้หมดแล้ว ต้องไปศึกษาในรายละเอียด
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้า สมาคมค้าปลีกไทย ได้ออกมาเสนอแนะว่า ทอท. ควรจะเปิดประมูลร้านค้าดิวตี้ฟรีแบบแบ่งเป็นรายสินค้าเป็นหมวดหมู่ หรือ Concession by Category ไม่ใช่แบบสัญญาเดียวทั้ง 4 สนามบิน เพื่อไม่ให้มีผู้ประกอบการเพียงรายเดียว เพราะโครงการนี้จะมีผลประโยชน์เกิดขึ้นนับแสน ๆ ล้านบาท จากอายุสัมปทาน 10 ปี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2562 ทอท. ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนซื้อซองประมูล TOR : Terms of Reference ใน 2 โครงการ คือ การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการดิวตี้ฟรี รวม 4 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ หาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่ มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2574 ด้วยวิธีการประมูลเสนอค่าตอบแทน โดยจะเปิดขายซองตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. ถึงวันที่ 1 เม.ย. 2562 โดยจะเลือกผู้ประกอบการแบบรายเดียว หรือ สัญญาเดียว