'อนาคตใหม่' แถลงการณ์ปมยุบ "ทษช." แนะแก้ รธน. จัดดุลยภาพสถาบันทางการเมืองใหม่

07 มี.ค. 2562 | 13:42 น.

พรรคอนาคตใหม่ออกแถลงการณ์หลังศาล รธน. ยุบ "ทษช." ชี้ "ยุบพรรค" เสียงข้างมากมาแล้ว 3 ครั้ง ทำประชาชนแตกขั้วการเมืองถึงที่สุด แนะแก้รัฐธรรมนูญ จัดดุลยภาพสถาบันทางการเมืองใหม่ สร้างระบบตรวจสอบศาล-องค์กรอิสระที่เป็นสากล

ที่พรรคอนาคตใหม่ - นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อ่านแถลงการณ์กรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตอนหนึ่งระบุว่า ในรัฐเสรีประชาธิปไตย บุคคลที่มีแนวคิดเดียวกันย่อมมีเสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐ โดยผ่านการเสนอนโยบายเพื่อให้ประชาชนเลือก พรรคการเมืองจึงเป็นสถาบันการเมืองอันสำคัญยิ่งในระบอบประชาธิปไตย การยุบพรรคการเมืองจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นที่จะต้องรักษาระบอบประชาธอปไตยเท่านั้น

ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา มีกระบวนการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง มีการยุบพรรคการเมืองที่ครองเสียงข้างมากมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ตรงกันข้าม การยุบพรรคการเมืองทำให้ประชาชนสงสัยต่อการใช้อำนาจขององค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ จนทำให้ประเทศไทยมาถึงจุดที่ไม่สามารถหาข้อยุติที่ทุกฝ่ายยอมรับกันได้

การยุบพรรคในช่วงก่อนการเลือกตั้งเพียง 17 วัน เป็นการตัดโอกาสพรรคการเมืองที่ถูกยุบได้เข้าแข่งขันในการเลือกตั้ง และทำลายเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการเลือกพรรคการเมืองที่ถูกยุบ และการยุบพรรคการเมืองในช่วงเวลานี้ อาจทำให้ประชาชนเสียความเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพรรคที่ถูกยุบเป็นพรรคที่มีจุดยืนต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช.


นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ในรัฐเสรีประชาธิปไตย ประกอบด้วยความชอบธรรม 2 ประการ ได้แก่ อำนาจของประชาชนในการตัดสินใจทางการเมือง การเลือก ส.ส. และรัฐบาล ประการที่ 2 คือ ความชอบธรรมจากการจำกัดการใช้อำนาจ ได้แก่ การประกันเสรีภาพของประชาชนมิให้ถูกอำนาจรัฐล่วงละเมิดและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ในรัฐเสรีประชาธิปไตย สถาบันทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องถูกตรวจสอบ เช่นเดียวกัน รัฐเสรีประชาธิปไตย ก็ไม่อาจยอมรับให้องค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสามารถใช้อำนาจในนามของการตรวจสอบได้ตามอำเภอใจ


ขบวนการตุลาการภิวัฒน์ หรือ การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมืองตลอดกว่าทษวรรษ ไม่ได้ช่วยให้ความขัดแย้งทางการเมืองลดลง แต่กลับทำให้ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจถูกตั้งคำถาม จนกลายเป็นว่า ฝ่ายหนึ่งมองว่า รัฐบาลเสียงข้างมากใช้อำนาจโดยมิชอบ อีกฝ่ายหนึ่งก็มองว่า องค์กรตุลาการและองค์กรอิสระต้องการทำลายฝ่ายเสียงข้างมาก สภาพการณ์เช่นนี้ นำมาซึ่งการแตกขั้วทางการเมืองจนถึงที่สุด จนสังคมไทยไม่อาจหาฉันทามติได้

"พรรคอนาคตใหม่ เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่ออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการเมืองต่าง ๆ ให้ได้ดุลยภาพ เคารพเสียงข้างมาก พร้อมคุ้มครองเสียงข้างน้อย สร้างระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ องค์กรตุลาการ และองค์กรอิสระที่ได้มาตรฐานตามแบบประชาธิปไตยสากล และสามารถควบคุมมิให้เสียงข้างมากใช้อำนาจโดยมิชอบได้ แต่ต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือในการกวาดล้างทางการเมือง"

การยุบพรรคเป็นการยุบเพียงร่างกาย แต่ไม่สามารถยุบความคิดของคนไม่ได้ โดยบทพิสูจน์ที่เห็นได้ชัด คือ 13 ปีที่ผ่านมา มีการยุบพรรคฝ่ายเดิม 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่คุณก็ยุบได้เพียงพรรค แต่ไม่สามารถยุบความคิดและความตั้งใจของเขาได้ ซึ่งตามความเห็นผม การยุบพรรคนั้นถือว่า "รุนแรงมาก"

'อนาคตใหม่' แถลงการณ์ปมยุบ "ทษช." แนะแก้ รธน. จัดดุลยภาพสถาบันทางการเมืองใหม่