กังขา "เงื่อนไขพิสดาร" ไฮสปีด! หวั่นรัฐเสียค่าโง่-เอื้อประโยชน์เอกชน

27 ม.ค. 2562 | 04:03 น.
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันกังขาข้อเสนอพิสดารต่อรองรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หวั่น! รัฐเสียค่าโง่ ชี้เพิ่มเงื่อนไขนอกเหนือทีโออาร์ ส่อเอื้อประโยชน์เอกชน

การประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงินลงทุน 224,544 ล้านบาท เดินมาถึงโค้งสุดท้าย โดยในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค) คณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่มี นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นประธานมีนัดเจรจากับกลุ่มซีพีและพันธมิตร ผู้เสนอราคาต่ำสุดอีกรอบ ท่ามกลางกระแสข่าวกลุ่มซีพีและพันธมิตรมีข้อเสนอเพิ่มเติม อาทิ การขอประกันกำไร 6% ให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก จากเดิมจ่ายเมื่อเดินรถ ให้สถาบันการเงินเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อเพิ่มเพดานปล่อยกู้ ขอลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 70% เหลือ 5% ในอนาคต และให้รัฐมีมาตรการอุดหนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เท่าที่อ่านข้อมูลเงื่อนไขต่าง ๆ ตอนที่รัฐประกาศเงื่อนไขการประมูล หรือ ทีโออาร์ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เอกชนที่จะลงทุนต้องทำอย่างไร แต่การที่เอกชนเสนอต่างออกไปจากเดิมอย่างมาก คิดว่าไม่เหมาะสม อย่างเช่น ไม่มีรัฐที่ไหนจะการันตีกำไรให้กับเอกชนได้ และหลักทั่วไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง การค้าขายที่จะมาทำการค้ากับรัฐที่จะทำให้ตัวเองมีเงื่อนไขที่ได้เปรียบรัฐ เป็นสิ่งทำไม่ได้ การประมูลทั้งหลายจะไปวางเงื่อนไขอะไรที่มากกว่าสิ่งที่เคยกำหนดไว้ในเอกสารโครงการตั้งแต่แรกไม่ได้ เพราะต้องยึดผลประโยชน์ของรัฐตั้งแต่แรก

"การเกิดการต่อรองที่พิสดารแบบนี้ ภายใต้การลงทุนแบบ PPP จาก พ.ร.บ.อีอีซี เป็นกฎหมายก็ให้สิทธิพิเศษคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน สิ่งที่ทุกคนควรยึดเป็นที่ตั้งในเรื่องของการค้าขายจะต้องมีความเป็นสากล เป็นไปตามวิถีการค้า ผู้ซื้อ คือ รัฐ ต้องกำหนดเงื่อนไขที่ตัวเองได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ผู้ขายมากำหนดเอาตามใจชอบ รัฐในฐานะผู้ให้สัมปทานต้องเปิดรับเงื่อนไขจากเอกชนที่ให้ประโยชน์มากที่สุด" ดร.มานะ กล่าว

เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า ถ้าหากรัฐบาลไปเร่งรัดเซ็นสัญญาแล้วไม่มีความชัดเจนในวันข้างหน้า ทำให้เอกชนรุกคืบเข้ามาเอาเปรียบได้ การเข้ามาต่อรองแบบนี้อาจจะเสียค่าโง่ในอนาคต เป็นสิ่งที่รัฐต้องป้องกันตัวเองตั้งแต่ต้น ดังนั้น ถ้าตัวแทนของรัฐจะไปต่อรองและตกลงอะไรกัน คนของรัฐทุกฝ่ายที่ไปตกลงกับเขาไว้ก็ต้องพร้อมรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น หากทำให้ผลประโยชน์ของชาติลดน้อยลงไป และหากมีการเอื้อให้กับเอกชนมากเกินไป

090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503