บลจ.กสิกรฯลุยหุ้นอินฟราทั่วโลก ชี้ผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังดัชนีกลุ่มพุ่ง 46%

18 มี.ค. 2559 | 00:00 น.
บลจ.กสิกรไทยฯ ออกกองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ฯ เน้นกระจายลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกที่สร้างรายได้แน่นอน แต่ผันผวนต่อเศรษฐกิจต่ำ เผยดัชนีหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี สูงถึง 46%

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หุ้นทุน (K-GINFRA) โดยมีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก มอร์แกน สแตนเลย์ อินเวสเมนท์ ฟันด์ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ , คลาส แซด ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นรวมถึงทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีทส์) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก อาทิ การคมนาคมขนส่ง โทรคมนาคมสื่อสาร ระบบสาธารณูปโภค และพลังงาน

กองทุน K-GINFRA เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลกำไรในระยะยาว รวมถึงเปิดโอกาสในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีรายได้ที่มั่นคง เนื่องจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ และถือเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต อาทิ ระบบไฟฟ้าประปา ก๊าซธรรมชาติ ระบบขนส่งมวลชน และระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ยังคงสามารถสร้างรายได้และทำกำไรได้แม้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือในช่วงภาวะอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เพราะผู้บริโภคยังมีความต้องการใช้สินค้าและบริการที่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานมีความผันผวนต่อภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่าในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ

นอกจากนี้ผู้ลงทุนยังมีโอกาสได้รับกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่จะมีการทำสัญญาระยะยาวกับภาคเอกชนหรือได้รับสัมปทานจากภาครัฐเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เช่น 10 ปีหรือ 20 ปีขึ้นไป เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ค่อนข้างแน่นอน จึงทำให้หุ้นในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานมีโอกาสจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าหุ้นโดยทั่วไปรวมถึงหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่การแข่งขันภายในอุตสาหกรรมมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีขั้นตอนในการเจรจาทำสัญญากับหน่วยงานภาครัฐที่ซับซ้อน ทำให้มีผู้แข่งขันในธุรกิจน้อยราย ส่งผลดีในแง่การสร้างอำนาจต่อรองโดยเฉพาะโอกาสในการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการในอนาคตด้วย
นายนาวินกล่าวอีกว่า ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยในช่วงระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา พบว่ามูลค่าตลาดของหุ้นในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 250% ขณะที่หุ้นทั่วโลกมีอัตราการเติบโตของมูลค่าตลาดเพียง 95% และยังให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก

ข้อมูล ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ดัชนีหุ้นในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกสามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี สูงถึง 46% ขณะที่ดัชนีหุ้นทั่วโลกให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 27% ส่วนกองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 4.00% ต่อปี เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 3.86% ต่อปี ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 8.27% ต่อปี เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 8.05% ต่อปี (ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ ณ 1 มี.ค. 59)

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,139 วันที่ 13 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2559