ห้างค้าปลีกพร้อมขนทัพสินค้าอุปโภคบริโภค ป้องกันขาดแคลน หลังพายุโซนร้อน 'ปาบึก' สงบ ... 'สหพัฒน์' งัดกลยุทธ์กองโจรกระจายสินค้าสู่ร้านค้าย่อย อาหารทะเลปรับขึ้นแล้ว 30% หวั่นพื้นที่สวนยาง-ปาล์มน้ำมันเสียหาย พร้อมเร่งเยียวยา
พายุโซนร้อน
'ปาบึก' ที่เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณระหว่าง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเวลา 12.45 น. ของวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดย นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภาคใต้ในช่วงสั้น ๆ 3-5 วัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3-5 พันล้านบาท
"อาจจะมีผลกระทบจากการยกเลิกเที่ยวบิน โรงแรม ผลกระทบจากการใช้จ่ายประจำวัน การเดินทาง ท่องเที่ยว ซึ่งน่าจะไม่เกิน 3-5 วัน เป็นผลกระทบระยะสั้น ไม่ยาวนาน หรือ บานปลายจนกระทบต่อเศรษฐกิจของภาคใต้ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้" นายธนวรรธน์ กล่าว
ขณะที่ ผู้ประกอบการค้าปลีกต่างเตรียมความพร้อมในการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยนายอนุพงษ์ เครืองาม ผู้ช่วยรองประธาน ฝ่ายปฏิบัติการไฮเปอร์มาร์เก็ตและมาร์เก็ต บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี คาดว่าจะมีบิ๊กซีที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกทั้งสิ้น 56 สาขาในทุกแพลตฟอร์ม แต่ก็เตรียมรถส่งสินค้าอุปโภคบริโภคแบบเร่งด่วน ให้ถึงภายใน 1 วัน เพื่อรองรับลูกค้าในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่ นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส เตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อรับมือพายุปาบึก โดยแผนกซัพพลายเชนและกระจายสินค้าได้วางแผนจัดส่งสินค้าที่จำเป็น เช่น น้ำดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ พร้อมเพิ่มปริมาณสินค้าเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าและไม่ขาดตลาด ซึ่งในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พบว่า ลูกค้าในหลายพื้นที่เข้ามาซื้อสินค้าที่จำเป็น ทั้งน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง จำนวนมากเพื่อเตรียมตัวรับมือกับพายุ ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัส มีสาขาทุกรูปแบบในภาคใต้กว่า 200 สาขา
[caption id="attachment_371125" align="aligncenter" width="503"]
©Mediamodifier[/caption]
➣
ส่งสินค้าแบบกองโจรสู่ร้านค้า
ด้าน นายวิเชียร กันตถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์ จำกัด ในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้รถขนส่งสินค้าจำนวนมากจอดรออยู่รอบนอก พร้อมส่งสินค้าได้ทันทีเมื่อพายุสงบ หรือ สามารถเดินรถได้ โดยจะมีทั้งที่ส่งตรงไปยังศูนย์กระจายสินค้าในแต่ละจังหวัด และจัดส่งไปยังห้างร้านค้าขนาดใหญ่ต่าง ๆ อาทิ แม็คโคร บิ๊กซี เป็นต้น
"รถ 6 ล้อ 700 ฟีด จะส่งสินค้าลง 3 ดรอป เพื่อกระจายสินค้าแบบกองโจรไปยังร้านค้าต่าง ๆ ให้เพียงพอกับชาวบ้าน แต่หากเกิดวิกฤติน้ำท่วมหลังพายุสงบ ก็จะเปลี่ยนจากขนส่งสินค้าไปยังร้านค้า เป็นขนสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไปชวยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแทน"
ด้าน นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า บริษัทมีมาตรการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและเตรียมรับมือพายุปาบึก โดยเฉพาะเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช มีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับพร้อมใช้งานตลอดเวลาและมีการวางแผนการระบายน้ำ ด้วยการติดตั้งปั๊มน้ำ เครื่องสูบน้ำพร้อมสายสูบ และกระสอบทรายสำหรับทำกำแพงกั้นน้ำ และยังเปิดให้บริการจุดจอดรถฟรี จำนวน 500 คัน สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกด้วย
[caption id="attachment_371127" align="aligncenter" width="416"]
ณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง[/caption]
➣
ยาง-ปาล์ม เสี่ยงเสียหาย
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พื้นที่สวนยางพาราที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึกใน 16 จังหวัด ที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. มีทั้งหมดกว่า 9 ล้านไร่ จากข้อมูลอ้างอิงของกรมส่งเสริมการเกษตร มีพื้นที่สวนยางทั่วประเทศกว่า 24 ล้านไร่ ซึ่งเป็นไปตามสวัสดิการเกษตรกรชาวสวนยาง ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย 2558 มาตรา 49(5) ที่จะเข้าข่ายได้รับเงินเยียวยา ต้องเป็นสวนยางที่ได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 20 ต้นต่อไร่ จะให้เงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 3,000 บาท
นอกจากนี้ จะให้เงินทุนกู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไม่เกินรายละ 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี กรณีได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 5 แสนบาท และค่าจัดงานศพรายละ 3 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 5.3 แสนบาท ทั้งนี้ เกษตรกรจะได้รับเงิน 2 ทาง ก็คือ จากทางจังหวัดที่ได้ประกาศภัยพิบัติในการช่วยเหลือเยียวยาและในส่วนของ กยท. ที่สามารถไปติดต่อรับสวัสดิการที่ กยท. ในพื้นที่ประสบภัย
เช่นเดียวกับ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานพื้นที่ปลูกปาล์มใน 16 จังหวัดภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยงกว่า 4.55 ล้านไร่ แต่มีพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิที่ได้รับการดูแลจากรัฐบาล โดยกรมส่งเสริมการเกษตร เป้าหมายดูแลทั้งประเทศจำนวน 1.5 แสนราย พื้นที่ไม่เกิน 2.25 ล้านไร่ รายงาน ณ วันที่ 4 ม.ค. 62 จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 392 ล้านบาท เกษตรกร 5.7 หมื่นคน พื้นที่กว่า 6 แสนไร่
➣
อาหารทะเลปรับขึ้น 30%
ด้าน นายศราวุธ โถวสกุล รองประธานกรรมการบริหาร สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน เรือประมงจอดตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากผลดังกล่าวนี้จะทำให้ในช่วงนี้ราคาอาหารทะเลปรับเพิ่มขึ้นถึง 30% และกว่าราคาอาหารทะเลจะกลับคืนสู่ปกติ คงหลังวันที่ 15 ม.ค. เป็นต้นไป โดยคาดว่าเรือจะออกไปทำการประมงได้หลังวันที่ 5 ม.ค. เพราะกว่าเรือจะออกไปทำการประมง แล้วจะกลับเข้าฝั่งประมาณช่วงวันที่ 13-15 ม.ค.
ด้าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารมีงบประมาณจังหวัดละ 1 ล้านบาท อยู่แล้วในการดูแลเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติเบื้องต้น เช่น การช่วยเหลือถุงยังชีพ และหากครบกำหนดชำระหนี้จะยืดอายุออกไปอีก 1 ปี โดยไม่เสียค่าปรับ จากนั้นหากพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายและประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลไร่ละ 1,111 บาท และหากมีการทำประกันพืชผลเกษตรด้วย จะได้รับเงินชดเชยเพิ่มเติมอีกไร่ละ 1,260 บาท ซึ่งเป็นมาตรการที่เตรียมไว้อยู่แล้ว
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,433 วันที่ 6 - 9 ม.ค. 2562 หน้า 01+15
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
ธพว. ดัน 2 มาตรการด่วนเยียวยาฟื้นฟูธุรกิจโดนพิษ "ปาบึก"
●
"ประยุทธ์" ให้กำลังใจคนเมืองคอนจากเหตุพายุ "ปาบึก" ถล่ม
| เกาะติดข่าว 'ปาบึก' : www.thansettakij.com/tag-articles-64586