เสียงประชาชนหลังเลือกตั้งเลิกขัดแย้ง พร้อมรับ”บิ๊กตู่”ถ้ามาถูกต้อง

เวทีประชาชน”อยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้”ร้องหา หลังเลือกตั้งเลิกขัดแย้ง มุ่งทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ขอสังคมเติบโตพอดีมีความสุข พร้อมยอมรับ”บิกดู่”อยู่เป็นนายกฯต่อ หากมาตามครรลองของกฎหมาย

[caption id="attachment_345626" align="aligncenter" width="503"] สองพิธีกรคนดัง และแขกรับเชิญทั้ง 6 บนเวที Exclusive Talk #อยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้[/caption]

สปริงนิวส์ เน็ตเวิร์ค จัดเวทีเอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ค “#อยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้” โดย”หมาแก่”ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ”แมวสาว”อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ พิธีกรคู่ขวัญรายการ”เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ดำเนินรายการ เชิญ 6 ตัวแทนจากหลากหลายวงการ พร้อมกับ 4 องค์กรภาคประชาสังคม มา”ส่งเสียง”แสดงวิสัยทัศน์ โดยมี 10 พรรคการเมืองมานั่งรับฟังเสียงของภาคประชาชน ในโรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแม็ก พารากอน เมื่อวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา



โดยดนัยเปิดเวทีด้วยคำถามว่า ประชาชนอยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้อย่างไรในทัศนะของแต่ละคน ซึ่ง กาญจนา หงษ์ทอง นักคิดนักเขียนผู้เดินทางรอบโลก กล่าวว่า อยากเห็นเมืองไทยมีความสุข ยื่งกว่าเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือความทันสมัย ส่วนวิธีทำให้มีความสุขอย่างไรค่อยถอยมาดูกัน โดยไม่ต้องเร่งเร้ากระตุ้นคนให้บริโภค ตัวอย่างประเทศแถบสแกนดิเนเวียมีหลักประกันชีวิตที่ดี โดยยอมให้เก็บภาษีในอัตราสูง ซึ่งเรื่องนี้ต้องเริ่มจากการปรับรื้อทัศนคติของคนไทยทั้งสังคม จึงขอว่ารถคันแรกเราไม่เอา ความสุขก็ไม่ต้องมาคืน แต่ให้สังคมไทยอยู่บนพื้นฐานของดีที่มีอยู่กับความพอและส่งเสริมให้ยั่งยืน

[caption id="attachment_345628" align="aligncenter" width="503"] กาญจนา หงษ์ทอง[/caption]

ส่วนหลังเลือกตั้งพรรคไหนได้เป็นรัฐบาล ขอให้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้  โดยอยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น ภายใต้การพัฒนายั่งยืน โดยสิ่งแวดล้อมคงดีอยู่ โดยลดอัตตา ลดความขัดแย้ง ทำงานสร้างสรรค์ มุ่งประโยชน์ชาติ เพราะเจ็บมาเยอะกับความขัดแย้งสีเสื้อจนทหารเข้ามา

ด้าน ก้อง-อรรฆรัตน์ นิติพน ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบ.มัชรูม กรุ๊ป จำกัด ผู้สร้างปรากฎการณ์อายุน้อยร้อยล้าน กล่าวว่า เอสเอ็มอีอยากเห็นเศรษฐกิจดีมีการเติบโต ส่วนปัญหาสังคมที่พบคือความเหลื่อมล้ำ คนด้อยโอกาสยังมีปัญหา คนเมืองกินอาหารมื่้อละเป็นหมื่น ขณะเด็กในชนบทเงินพันบาทใช้ทั้งเดือน เวลานี้สังคมยังมีปัญหาทัศนคติที่บิดเบี้ยว เชิดชูแต่ดารานักแสดงเป็นไอดอล แต่ไม่มองวิศวกรเก่ง ๆ นักวิทยาศาสตร์ที่ทุ่มเท ยอมรับเรื่องเป็นเมียน้อยถ้าได้คนรวย. เป็นต้น ต้องสร้างภูมิต้านทานให้เกิดขึ้น

[caption id="attachment_345629" align="aligncenter" width="503"] อรรฆรัตน์ นิติพน[/caption]

ส่วน เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ นักแสดงผู้ใส่ใจเรื่องสังคมไทย สะท้อนว่า ปัญหาสังคมไทยที่ไม่เคารพกฎกติกาเริ่มจากการละเมิดเล็ก ๆ แล้วบอกว่า หยวน ๆ กัน นิดเดียวเอง เป็นบ่อเกิดของการทุจริต หลีกเลี่ยงกฎหมาย ไม่ยอมรับกติกา “ตอนมีรัฐประหารใหม่ ๆ ก็ดีใจเล็ก ๆ ว่าความขัดแย้งจะได้จบเสียที บ้านเมืองจะได้เจริญ แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นหวังฐานเสียงเหมือนเดิม”

[caption id="attachment_345630" align="aligncenter" width="407"] กรุณพล เทียนสุวรรณ[/caption]

ขณะที่ อัยย์ วีรานุกูล ศิลปินนักแสดง ผู้ทำโครงการเพื่อสังคม สะท้อนว่า ไปมาหลายประเทศเมื่อมองย้อนกลับมา เมืองไทยก็มีหลายสิ่งดี ๆ มีความเป็นกันเอง ที่ดีมาก ๆ แต่น้อยลงในระยะหลัง ๆ อยากให้ฟื้นของดีเรามีกลับคืนมา และการจะเติบโตใดควรเป็นไปอย่างพอเหมาะกับศักยภาพ ไม่เช่นนั้นจะซ้ำรอยการเติบโตของปายหรือเชียงคาน ที่ตั้งรับไม่ทันเจริญจนระเบิดแล้วพังในที่สุด

[caption id="attachment_345632" align="aligncenter" width="419"] อัยย์ วีรานุกูล[/caption]

หากพรรคไหนได้เป็นรัฐบาลแล้ว อยากให้นำข้อเสนอทุกข้อที่พูดมาเอาไปทำให้หมด เชื่อว่าทุกพรรคมีคนเก่งอยู่ ควรมาร่วมมือกันทำงานแก้ปัญหาให้บ้านเมือง

ภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ เจ้าพ่อวงการอีคอมเมิร์ชไทย เสนอว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือผู้นำ ที่ต้องมีคุณภาพ  ยุติธรรม โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ ดังเช่น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน สำหรับประเทศไทยเสนอให้นักการเมืองรุ่นใหม่ไม่ว่าพรรคไหนต้องพยายามถีบตัวขึ้นมาอยู่แถวหน้าในพรรค  ไม่ต้องเกรงใจรุ่นพี่รุ่นอาในพรรค ที่อาจจะเก่ง แต่ไม่ถูกยุคถูกสมัยแล้ว   และหากได้เป็นรัฐบาลต้องปรับการทำงานของราชการ เพราะต่างหน่วยต่างทำ ซ้ำซ้อนไม่บูรณาการกัน และสั่งข้ามหน่วยกันไม่ได้ จนสิ้นเปลือง และให้ประสานภาคเอกชนให้เป็นตัวนำ ภาครัฐเพียงสนับสนุน

ทั้งนี้ การเปลี่ยนประเทศต้องเริ่มจากตัวเราเอง ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เลิกชี้นิ้วสั่งคนอื่น

[caption id="attachment_345633" align="aligncenter" width="354"] ภาวุธ พงษ์วิทยาภานุ[/caption]

ส่วนรัฐบาลหลังเลือกตั้งนั้นสำคัญมาก ที่ผ่านมารัฐมนตรีเป็นตามโควตตาส.ส. ต้องเอาคนมีอำนาจมาเป็นแทนที่จะใช้คนที่มีคุณภาพ มีความรู้ความเข้าใจภารกิจของแต่ละกระทรวง กลับได้คนไม่รู้เรื่องเลยพังตั้งแต่แรก จึงควรวางตัวตามความสามารถใช้คนถูกงาน

ด้าน ดีเจ ภูมิ ตั้งสง่า และเป็นนักธุรกิจฝีปากกล้า เน้น 3 เรื่องคือ สื่อ ที่อยู่ใต้อิทธิพลของธุรกิจ แทนที่จะรายงานความจริง กลับกระตุ้นสังคมให้ฉาบฉวย ส่วนการศึกษานั้นอาชีพครูอยู่แนวหลัง ห้องเรียนขนาดใหญ่ดูแลไม่ทั่วถึง ต้องปรับวิธีการให้การศึกษาต้องมุ่งเสริมศักยภาพของผู้เรียนแต่ละคน เช่นเดียวกับเรื่องของธรรมชาติ ที่เรามีอยู่มากแต่ขาดการดูแลจนเสื่อมโทรม โดยที่หากมีการบริการจัดการที่ดี ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นสามารถหล่อเลี้ยงคนในชุมขนได้อย่างทั่วถึงยั่งยืน

[caption id="attachment_345634" align="aligncenter" width="503"] ดีเจ ภูมิ ตั้งสง่า[/caption]

รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาต้องดูแล 3 ข้อนี้คือ เรื่องการศึกษา ซึ่งไม่ค่อยมีรัฐบาลไหนสนใจเพราะกว่าจะเห็นผลใ้ช้เวลานาน อาจไปตกกับพรรคอื่นที่เป็นรัฐบาลเวลานั้น แต่ก็ต้องทำเพราะเป็นอนาคตของชาติ เรื่องสื่อคุณภาพ เพราะมีบทบาทในการสร้างทัศนคติวิธีคิดของสังคมในระยะยาว และเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ที่ต้องดูแลให้ยิ่งยืน

ส่วนคำถามร้อนจากพิธีกรฝีปากคม”หมาแก่”ดนัยที่ว่า อยากเห็น”ลุงตู่”อยู่ต่ออีกมั๊ย นั้น ดีเจภูมิตอบว่า ที่ผ่านมาสนใจการเมืองมาก ไปร่วมทุกการชุมนุม ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งทุกครั้ง แต่ก็ได้รัฐบาลที่ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังจนหมดศรัทธา “คิดอยู่อยากประชดโดยไม่ไปเลือกตั้ง”

ขณะที่เพชรกล่าวว่า อยากถามว่าจะอยู่ต่อไปทำไมอีก เพราะมีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการละเมิดสิทธิกีดกันไม่ให้คนไปเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ถ้ามาตามครรลองของกฎหมายที่เขียนไว้ก็พร้อมยอมรับ แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้เป็นต่อ

เช่นเดียวกับกาญจนาที่ระบุว่า หากมาถูกกติกาก็ยินดี และต้งใจวันเลือกตั้งจะอยู่เมืองไทยเพื่อไปเลือกต้ง

ส่วนก้องกล่าวว่า ถ้ากลับมาในฐานะที่ไม่ใช่แบบเวลานี้ ก็พร้อมยอมรับ ขณะที่ภาวุธระบุว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า”ลุงตู่”ตั้งใจดี หลายเรื่องพยายามแก้ไขอยู่เหมือนกัน เดิมเคยศรัทธา แต่พอเจอเรื่อง”นาฬิกา”ก็มีปัญหาเหมือนกัน ถ้ากลับมาคนใกล้ตัวต้องกล้าบอกให้เยอะ ๆ เรื่อง”เอาพี่เอาน้อง”ต้องให้น้อยลง

ขณะที่อัยย์ก็ระบุว่า เวลานี้คนโหยหาการเลือกตั้งมาก ใครอยากให้อยู่ต่อต้องไปเลือกตั้ง แต่ก็เตือนว่าคาดหวังได้แต่อย่าเทใจให้กับ”นักการเมือง”ทั้งหมด และขอให้นักการเมืองคิดถึงวันแรกที่ก้าวเข้ามาให่มาก ต้องเมตตาประชาชน อาสามาแล้วต้องบริสุทธิ์ใจ









 

[caption id="attachment_345611" align="aligncenter" width="335"] [/caption]