คำ ต่อ คำ | "ประทีป ตั้งมติธรรม" เบื้องลึกผนึก "MK" โตไปด้วยกัน
สร้างความฮือฮาไม่น้อย หลังบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ถือหุ้น 99.99% ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด 992.01 ล้านหุ้น หุ้นละ 4.10 บาท มูลค่า 4,067.24 ล้านบาท คิดเป็น 100% ใน บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) ซึ่งเป็นบริษัทของคนในตระกูลเดียวกันนั้น
"ฐานเศรษฐกิจ" สัมภาษณ์ นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย ถึงเป้าหมายในอนาคต หากเข้าบริหาร บมจ.มั่นคง
[caption id="attachment_299380" align="aligncenter" width="372"]
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย[/caption]
ขยายกิจการเพิ่ม
นายประทีป ระบุว่า การซื้อหุ้นครั้งนี้ ทุกฝ่ายยินยอม ซึ่งบริษัทมองว่า เป็นการขยายกิจการไปยังสาขาที่ไม่เคยทำมาก่อน บริษัทไม่มีสนามกอล์ฟ ทำเลบางนา-ตราด บริเวณกิโลเมตรที่ 30 อีกทั้งโกดังคลังสินค้าในทำเลเดียวกัน แน่นอนว่า บริษัทต้องขยายงานเข้าไปรองรับ ขณะที่ แลนด์แบงก์กระจายตามทำเลต่าง ๆ ถือเป็นต้นทุนหลัก ที่บริษัทมองว่า เป็นผลดีในอนาคต โดยสามารถนำออกมาพัฒนาต่อเนื่อง โดยไม่ต้องซื้อที่ดินแปลงใหม่ ๆ ซึ่งหายากและมีราคาสูง เช่น ทำเลอ่อนนุช บางนา เพราะแต่ละปีบริษัทต้องใช้เงินลงทุนปีละกว่า 9,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน
"เหตุผลที่ศุภาลัยซื้อหุ้น เนื่องจากบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดำเนินธุรกิจที่ต่างไปจากที่ศุภาลัยดำเนินการอยู่ อาทิเช่น คลังสินค้า ธุรกิจสนามกอล์ฟ เป็นต้น และมีที่ดินหลายแปลงอยู่ในทำเลที่ดี มีต้นทุนที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับราคาที่ดินในปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะพัฒนาให้เติบโตในอนาคต อีกทั้งเป็นการขยายการลงทุนไปในทำเล หรือ กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างจากโครงการของ บมจ.ศุภาลัย ในปัจจุบัน"
[caption id="attachment_299383" align="aligncenter" width="503"]
©www.mk.co.th[/caption]
ด้วยสไตล์การพัฒนาที่ต่างกัน อนาคตจึงเกิดโปรดักต์ใหม่หลากหลาย เช่น มั่นคงเน้นคอนโดมิเนียมแนวราบ ศุภาลัยจะมุ่งแนวสูงเป็นหลัก มั่นคงเน้นบ้านหลังใหญ่ แต่ศุภาลัยกลับเน้นขนาดปานกลางกะทัดรัด
เสริมให้ 'มั่นคง' โต
นายประทีป มองว่า ในเมื่อศุภาลัยมีสภาพคล่องสูง จึงต้องการเข้าไปช่วย บมจ.มั่นคงเคหะการ ให้เติบโตขึ้นต่อเนื่อง เมื่อถามว่า ปัจจุบันมีปัญหาการลงทุนหรือไม่ นายประทีป ระบุว่า เราต้องการเข้าไปช่วยเสริมให้ผลประกอบการ บมจ.มั่นคง ขยายตัวดีมีผลกำไร หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เติบโต ด้วยการลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด เมื่อรวมกิจการแล้ว สามารถซื้อวัสดุก่อสร้าง การกู้เพื่อลงทุนต่ำกว่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การบริหารจัดการคิดไว้ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 ศุภาลัยบริหารเองทั้งหมดเพื่อความคล่องตัว และรูปแบบที่ 2 ให้เจ้าของเดิมบริหารจัดการต่อ ภายใต้การดูแลของบริษัท เพราะการลงทุนคนละรูปแบบกัน และบุคลากรมีความพร้อมและถนัด เช่นเดียวกับการซื้อกิจการที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งบริษัทเองให้เจ้าของเดิมบริหารต่อ
[caption id="attachment_299384" align="aligncenter" width="503"]
©www.mk.co.th[/caption]
แต่เบื้องต้น จะใช้รูปแบบที่ 1 ก่อน ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน โดยให้เวลา 2 เดือน เพื่อติดตามผล ว่าสิ่งที่ดำเนินการนั้นมาถูกทางหรือไม่
"คนฝั่งมั่นคงเขาตกลงด้วยดี มีการคุยกันมาก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่าย บริษัท ศุภาลัย จะมาเสริม ทำให้ผลประกอบการดีขึ้น"
พร้อมรบ
ปัจจุบัน ศุภาลัยเติบโตต่อเนื่อง ทั้งยอดขาย ผลประกอบการ และกระแสเงินสดที่ดี ภาระหนี้ไม่สูงมาก เนื่องจากมีการเพิ่มทุนไปเมื่อปีที่ผ่านมา และมีต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่า 3% จึงมั่นใจได้ว่า จะทำให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจทั้ง 2 ฝ่าย แบบวิน-วิน
……………….
คำ ต่อ คำ : เบื้องลึกผนึก "MK" โตไปด้วยกัน กับ ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,384 วันที่ 19-21 ก.ค. 2561 หน้า 29-30
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "ประทีป ตั้งมติธรรม"เก็บหุ้น MK เพิ่มขยับถือ 10.04%
● ที่สวนพลูวาละ 2 ล้าน! 'พฤกษา' ผุดคอนโดฯไฮเอนด์ - 'ศุภาลัย' ลุยมิกซ์ยูส
