เนเจอร์เวิร์คจ่อทิ้งลงทุน จีจีซีเสียบแทนผลิตPLA

พีทีทีจีซีเล็งตัดสินใจให้ “จีจีซี”ลงทุนโรงงานพลาสติกชนิดพิเศษ PLA ภายในปลายปี 2562  หลังเนเจอร์เวิร์คยังไร้ความชัดเจน เผยไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบ พร้อมเดินหน้าทดสอบในห้องแล็บเพื่อพัฒนาเชื้อแบคทีเรีย

นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โครงการพลาสติกชีวภาพชนิด PLA ที่เคยศึกษาจะร่วมลงทุนกับทางบริษัท เนเจอร์เวิร์คของสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายการลงทุนมายังประเทศไทย มูลค่าโครงการราว 6.5 พันล้านบาท ในระยะแรกนั้น  ขณะนี้การเจรจายังไม่มีข้อสรุป หากเนเจอร์เวิร์ค ยังไม่ตัดสินใจลงทุนในไทย ทางพีทีทีจีซีก็มีความพร้อมที่จะลงทุนโครงการ PLA เอง หรืออาจให้จีจีซี ซึ่งเป็นบริษัทลูก เป็นผู้ลงทุนเอง โดยใช้เทคโนโลยีของเนเจอร์เวิร์ค แต่วัตถุดิบที่แตกต่างกันคือเดิมจากข้าวโพดจะเปลี่ยนเป็นอ้อย

โดยปัจจุบันโรงงาน PLA ที่สหรัฐฯ ที่มีกำลังการผลิต 1.5แสนตันต่อปี ใกล้เต็มกำลังการผลิตแล้ว หากในอนาคตมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกก็จะขยายโรงงานต่อไปแต่การตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องเจรจาร่วมกันต่อไป อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบ โดยเฉพาะอ้อย ดังนั้นบริษัทอยู่ระหว่างทดสอบในห้องแล็บเพื่อพัฒนาเชื้อแบคทีเรีย ที่จะใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตพลาสติกชนิด PLA และพลาสติก PBS ต่อไป

“การตัดสินใจลงทุนโรงงาน PLA เองหรือไม่นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองในห้องแล็บ เพื่อทดสอบเชื้อของแบคทีเรีย จากเดิมใช้นํ้าตาลจากข้าวโพด แต่จะเปลี่ยนเป็นนํ้าตาลจากอ้อยแทนว่าจะมีเชื้อมากน้อยเพียงใด คาดว่าจะมีความชัดเจนปลายปี 2562 ดังนั้นหากเนเจอร์เวิร์คยังไม่ตัดสินใจลงทุน
ในไทย พีทีทีจีซีก็อาจลงทุนเองแต่คงต้องรอผลการพัฒนาเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ PLA ก่อน ส่วนจะเลือกพื้นที่ตั้งโรงงานในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี เนื่องจากได้สิทธิประโยชน์ค่อนข้างมากนั้น แต่ก็ต้องพิจารณาถึงความพร้อมด้านวัตถุดิบด้วย” นายปฏิภาณ กล่าว

...................................................................................

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,373 ระหว่างวันที่ 10-13 มิ.ย.61