ประยุทธ์ ระบุ 'ไทยนิยม' ช่วยขับเคลื่อนทุกระดับ

27 พ.ค. 2561 | 07:15 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า "กิจกรรมตัวอย่างที่จะนำพารายได้กระจายสู่ท้องถิ่น "เศรษฐกิจระดับฐานราก" นั่นก็คือ โครงการ "ไทยนิยมยั่งยืน" โดยมีโครงสร้างพื้นฐานหลักของประเทศ–กฎหมาย–ข้อมูลขนาดใหญ่ เป็น "ตัวเชื่อม" ในการบริหารจัดการ และมีกลไกประชารัฐเป็น "ตัวขับเคลื่อน" ให้สอดคล้องกับในทุกระดับ ซึ่งผมขอยกตัวอย่างการดำเนินการใน 2 เรื่องสำคัญ 1.การแก้ปัญหาปากท้องโดยการลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ชุมชน มีประชาชนกว่า 7 ล้านคน เข้าร่วม 97 เวทีประชาคม ซึ่งผลการวิเคราะห์โครงการของหมู่บ้านและชุมชน แห่งละ 200,000 บาท รวมทั้งสิ้น 88,400 โครงการ แบ่งการดำเนินการใน 3 ลักษณะ คือ (1) ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ประมาณ 68,000 โครงการ (77%) เช่น สร้างถนน, ศาลาประชาคม, หอกระจายเสียงเสียงตามสาย, ลานกีฬาสนามเด็กเล่น, เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง, บ่อกำจัดสิ่งปฏิกูล, แนวกันไฟ เหล่านี้เป็นต้น (2) การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ "ทางตรง" ราว 12,500 โครงการ (14%) เช่น การพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้าน-ชุมชน, ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม, การแพทย์แผนไทย, ลานตาก-โรงสี-ยุ้งฉาง ผลผลิตทางการเกษตร, การแปรรูป การถนอมอาหาร และเครื่องอบลดความชื้น, ผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP), หัตถกรรมผ้า เป็นต้น (3) การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ "ทางอ้อม" เกือบ 8,000 โครงการ (9%) การพัฒนาแหล่งน้ำ เช่น ลานอเนกประสงค์, น้ำดื่ม น้ำใช้, แหล่งน้ำ, ห้องน้ำบริการสาธารณะ, สถานีสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์, การปลูกป่า เป็นต้น

และ 2.การปฏิรูปภาคการเกษตรได้รับงบประมาณจากงบกลาง ราว 25,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในกิจกรรมโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับพืช–ปศุสัตว์–ประมง ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น คาดว่าจะส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม คิดเป็นมูลค่ากว่า 63,000 ล้านบาท มีเกษตรกรได้ประโยชน์ 4.3 ล้านราย อาทิ การพัฒนาแหล่งน้ำชลประทานในการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 2.12 ล้านไร่ คิดเป็น 10,000 หมื่นล้านบาท


11625234 - rubber tree

กิจกรรมเพิ่มศักยภาพการผลิตและการพัฒนาทักษะอาชีพ 24,000 ล้านบาท กิจกรรมการลดต้นทุนการผลิตด้วยการสนับสนุนเมล็ดพืชและสัตว์พันธุ์ดี กว่า 870 ล้านบาท กิจกรรมเสริมศักยภาพธุรกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 245 ล้านบาท เป็นต้น

ทั้งนี้ การอบรมเสริมทักษะความรู้ต่าง ๆ ก็เหมือนกับการเรียนในห้องเรียน ที่มีทั้งภาควิชาการ ภาคปฏิบัติ และมีทั้งคนประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ แต่อยู่บนพื้นที่ความสมัครใจ การฝึกอบรมเหล่านี้ ผมถือว่า เป็นการให้โอกาสนะครับ กับพี่น้องประชาชน เป็นการสร้างความเข้มแข็ง ตามแนวทาง "ศาสตร์พระราชา" คือ ไม่แจกปลา แต่จะให้เบ็ดแล้วสอนวิธีการหาปลานะครับ


Screen Shot 2561-05-27 at 14.09.35

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระจายรายได้ และสร้างงานในหมู่บ้านชุมชนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์–เชิงวัฒนธรรม–เชิงกีฬา สิ่งที่ชาวชุมชนต้องร่วมมือกัน นอกเหนือจากความสะอาด ความปลอดภัย ความเป็นมิตรแล้ว การค้นหาเรื่องเล่า การสร้าง "คนเล่าเรื่อง" ประวัติศาสตร์ ปรากฏการณ์ สิ่งที่น่าสนใจในแต่ละท้องถิ่น โดย "ไกด์–มัคคุเทศก์" ที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ–จีน และภาษาอื่น ๆ ไว้คอยบริการก็เป็นเสน่ห์นะครับ ดึงดูดใจผู้มาเยือนอีกด้วย โดยเฉพาะไกด์เยาวชน ก็จะเป็นการปลูกฝังสำนึกรักถิ่นฐานของตนอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้เกษียณ ที่ยังมีศักยภาพ สามารถได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม ด้วยการใช้ประสบการณ์และศักยภาพที่มีให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเอง ช่วยแบ่งเบาภาระของลูกหลาน โดยเฉพาะเมื่อสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย รัฐบาลนี้ตระหนักดีนะครับ ให้ความสำคัญ หมายถึงคนในวัยทำงานจะมีภาระในการดูแลผู้สูงวัยที่จะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขาดแรงงานวัยวัยฉกรรจ์

 

[caption id="attachment_284882" align="aligncenter" width="503"] © Pixabay © Pixabay[/caption]

ปัจจุบันนั้น รัฐบาลก็มีมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อดูแลและสนับสนุนการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ โดยมีแผนงานระยะยาว เพื่อดูแลสุขภาพและพัฒนาทักษะผู้สูงอายุโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แผนจัดหางานให้ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2560–2564 และแผนสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 ขณะเดียวกันในด้านสวัสดิการ รัฐบาลมีการอุดหนุนเงินยังชีพของผู้สูงอายุ เดือนละ 600–1,000 บาท อย่างต่อเนื่อง และเพื่อดูแลให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ที่ปัจจุบัน เรามีอยู่ประมาณ 2 ล้านคน รัฐบาลได้เตรียมเดินหน้าผลักดันการเพิ่มเงินยังชีพผู้สูงอายุ ให้เพียงพอต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นรายละ 1,200 บาท ถึง 1,500 บาท อีกด้วยนะครับ อย่างไรก็ตามเราต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของงบประมาณไว้ด้วยนะครับ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาแรงงานผู้สูงอายุ ในกรณีที่ประสงค์จะกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยได้ตั้งเป้าให้ผู้สูงอายุมีงานทำเพิ่ม 39,000 อัตรา โดยเฉพาะในชนบทผ่านวิสาหกิจชุมชน พร้อมมาตรการจูงใจให้องค์กรต่าง ๆ จ้างงานผู้สูงอายุ โดยสามารถนำรายจ่ายไปหักภาษีได้ถึง 2 เท่า รวมทั้งพยายามเพิ่มจำนวนสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณด้วย ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังเตรียมพร้อมในด้านที่พักอาศัยของผู้สูงอายุในหลายรูปแบบ เช่น โครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร ที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ ถือเป็นการดูแลผู้สูงอายุอย่างครอบคลุมในทุกมิติด้วย

 

[caption id="attachment_284883" align="aligncenter" width="503"] © Matthias Zomer © Matthias Zomer[/caption]

ทั้งหมดนี้ เป็นความตั้งใจจริงของรัฐบาล ที่จะสนับสนุนให้ประชากรกลุ่มนี้ ให้ยังเป็นกำลังสำคัญของชาติ และนำความสามารถ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างมีศักดิ์ศรี ภูมิใจกับการยืนอยู่ในสังคมได้ด้วยตัวเองต่อไป จะเห็นว่าการปฏิรูปในภาพรวมของประเทศนี้ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ดิจิทัล กฎหมาย ข้อมูลขนาดใหญ่ จะเป็นส่วนสำคัญต่อการกระจายความเจริญและรายได้สู่ท้องถิ่น แต่อาจต้องอาศัยเวลาและความร่วมมือกัน ต้องปรับตัว ปรับพฤติกรรม ให้สอดคล้องกับกระแสของโลก และแนวทางการพัฒนาประเทศอยู่เสมอ"


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ปชช. กว่า 41 ℅ ยังไม่รู้ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ทำอะไร
"อนุพงษ์" ระบุ "ไทยนิยมจบรอบ 3 แล้ว" อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติโครงการ


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว