‘ซีอาร์จี’ทุ่มหมื่นล. สยายปีกบุกไทย-เทศ
“ซีอาร์จี” เปิดแผน 5 ปี ทุ่มกว่า 1 หมื่นล้านบาท รุกธุรกิจร้านอาหารไทย-เทศ ทั้งขยายสาขาครบ 2,000 สาขา จ่อสยายปีกเวียดนามเพิ่ม พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์รุกตลาดเต็มสูบ หวังปั้นรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี (CRG) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนงานระยะยาว 5 ปี (ปี 2561-2565) ใช้งบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาธุรกิจร้านอาหาร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ด้วยกลยุทธ์ 1.การเพิ่มแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ ภายในประเทศ ทั้งการซื้อธุรกิจ การซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์และการร่วมทุน 2.การรุกธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง 3.การพัฒนาระบบและ New DNA เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
[caption id="attachment_270417" align="aligncenter" width="335"]
ณัฐ วงศ์พานิช[/caption]
“ใช้เงินลงทุน 1,000-2,200 ล้านบาทต่อปี เพื่อพัฒนาธุรกิจร้านอาหารในเครือให้แข็งแกร่งตามเป้าหมายที่วางไว้ แบ่งเป็นขยายสาขา 400-500 ล้านบาท การตลาด 500 ล้านบาท และการวางระบบ 200 ล้านบาท ขณะที่งบประมาณในการควบรวมกิจการ (M&A) จะขึ้นอยู่กับมูลค่าธุรกิจที่บริษัทเข้าไปลงทุน จึงยังไม่สามารถประเมินงบล่วงหน้าได้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทยังไม่มีการเข้าไปดำเนินธุรกิจร้านอาหารในลักษณะนี้มาก่อน”
พร้อมกันนี้ยังเตรียมเปิดร้าน “Food Heaven” ร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ที่จะรวบรวมเอาเมนูเด็ดหรือแต่ละแบรนด์ร้านอาหารในเครือทั้ง 11 แบรนด์ อาทิ โยชิโนยะ,โอโตยะ,เคเอฟซี,The Terrace ฯลฯ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสาขาแรกที่เทสโก้ โลตัส บางใหญ่ บนพื้นที่ 300 ตร.ม. ในไตรมาส 2 นี้ พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาร้านใหม่ โดยจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจร้านอาหารขนาดกลาง ที่มีมูลค่า 100-200 ล้านบาท เบื้องต้นมี 7 แบรนด์ที่บริษัทให้ความสนใจ โดยตั้งเป้าจะมีความร่วมมือเกิดขึ้นราว 2-3 แบรนด์ต่อปี เพื่อต่อยอดการเติบโตให้บริษัท
นอกจากนี้ยังมีความพร้อมในการพัฒนาแพลตฟอร์มการขายในช่องทางออนไลน์ ด้วยการนำทุกแบรนด์ในเครือมารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการสั่งสินค้า พร้อมบริการส่งผ่านไลน์แมน,อูเบอร์ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 3 นี้ ขณะที่ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทจะโฟกัสการทำตลาดไปยังประเทศเวียดนาม เนื่องจากกลุ่มเซ็นทรัลมีการเข้าไปลงทุนในเวียดนามอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 1.09 หมื่นล้านบาท มีกำไรเติบโตมากกว่า 15% โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 11% และจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.2 หมื่นล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า และมีสาขากว่า 2,000 แห่งในประเทศไทย จากสิ้นปีนี้ที่มีสาขาราว 1,000 แห่ง ขณะที่สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 10% จากสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของบริษัท และสัดส่วนรายได้ที่มาจากช่องทางออนไลน์จะเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี (CRG) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนงานระยะยาว 5 ปี (ปี 2561-2565) ใช้งบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาธุรกิจร้านอาหาร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ด้วยกลยุทธ์ 1.การเพิ่มแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ ภายในประเทศ ทั้งการซื้อธุรกิจ การซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์และการร่วมทุน 2.การรุกธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง 3.การพัฒนาระบบและ New DNA เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
[caption id="attachment_270417" align="aligncenter" width="335"]
“ใช้เงินลงทุน 1,000-2,200 ล้านบาทต่อปี เพื่อพัฒนาธุรกิจร้านอาหารในเครือให้แข็งแกร่งตามเป้าหมายที่วางไว้ แบ่งเป็นขยายสาขา 400-500 ล้านบาท การตลาด 500 ล้านบาท และการวางระบบ 200 ล้านบาท ขณะที่งบประมาณในการควบรวมกิจการ (M&A) จะขึ้นอยู่กับมูลค่าธุรกิจที่บริษัทเข้าไปลงทุน จึงยังไม่สามารถประเมินงบล่วงหน้าได้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทยังไม่มีการเข้าไปดำเนินธุรกิจร้านอาหารในลักษณะนี้มาก่อน”
พร้อมกันนี้ยังเตรียมเปิดร้าน “Food Heaven” ร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ที่จะรวบรวมเอาเมนูเด็ดหรือแต่ละแบรนด์ร้านอาหารในเครือทั้ง 11 แบรนด์ อาทิ โยชิโนยะ,โอโตยะ,เคเอฟซี,The Terrace ฯลฯ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสาขาแรกที่เทสโก้ โลตัส บางใหญ่ บนพื้นที่ 300 ตร.ม. ในไตรมาส 2 นี้ พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาร้านใหม่ โดยจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจร้านอาหารขนาดกลาง ที่มีมูลค่า 100-200 ล้านบาท เบื้องต้นมี 7 แบรนด์ที่บริษัทให้ความสนใจ โดยตั้งเป้าจะมีความร่วมมือเกิดขึ้นราว 2-3 แบรนด์ต่อปี เพื่อต่อยอดการเติบโตให้บริษัท
อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 1.09 หมื่นล้านบาท มีกำไรเติบโตมากกว่า 15% โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 11% และจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.2 หมื่นล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า และมีสาขากว่า 2,000 แห่งในประเทศไทย จากสิ้นปีนี้ที่มีสาขาราว 1,000 แห่ง ขณะที่สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 10% จากสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของบริษัท และสัดส่วนรายได้ที่มาจากช่องทางออนไลน์จะเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
