KCE บริหารสู้บาทแข็ง ค่าแรงร่วงลดแรงกดดันราคาทองแดง

10 ส.ค. 2560 | 04:56 น.
หุ้น KCE ซึมลึกหลุด 100 บาท นักลงทุนผวากำไรไตรมาส 2 ลดฮวบ 12% ต้นเหตุค่าเงินบาทแข็งโป๊ก-ราคาทองแดงที่เพิ่มขึ้น โบรกเกอร์ชี้ราคาสะท้อนข่าวร้ายหมดแล้ว ราคาหุ้นเด้งได้

ราคาหุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ฯ (KCE) ปรับตัวลดลงตํ่าสุดในรอบ 3 เดือน จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 114 บาท (4 พ.ค.60) ปัจจุบันราคาหุ้นหลุด 100 บาท แตะตํ่าสุดที่ 79.75 บาท ลดลง 30% จากราคาสูงสุดรอบ 3 เดือน โดยมีมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนต่อผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ออกมาลดลง จากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องและราคาทองแดงที่สูงขึ้นเทียบกับปีก่อน

ล่าสุดวันที่ 8 สิงหาคม ราคา KCE ปิดตลาดที่ 84 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,166 ล้านบาท

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลายแห่ง ต่างมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ลดลง ซึ่งบล.เคจีไอ (ประเทศไทย)ฯ คาดการณ์ว่ากำไร 711 ล้านบาท ลดลง 12.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 811.79 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 7.3% จากไตรมาส 1/2560 สำหรับ 8 โบรกเกอร์เฉลี่ยให้กำไรไตรมาส 2 ที่ 697 ล้านบาท

นักวิเคราะห์กล่าวอีกว่า ผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง และราคาทองแดงในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น คาดการณ์ว่าทิศทางการเติบโตยากขึ้น ซึ่งระดับราคาหุ้นปัจจุบัน ที่ 80 บาท กำไรต่อหุ้น (EPS) 6.4 บาท เป็นราคาที่รับรู้ข่าวร้ายหมดแล้ว รวมทั้งมีพี/อี (ราคาต่อกำไรต่อหุ้น) เหมาะสม 12.5 เท่าเท่ากับพี/อีกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิมเคยขึ้นไปเกือบ 20 เท่า หรือที่ราคา 130 บาท

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า ราคาทองแดงโลกปรับตัวขึ้นมาจาก 7.5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกิโลกรัม (กก.) ในปีก่อน ขึ้นมาอยู่ที่ 11 ดอลลาร์สหรัฐฯ/กก.ในปี 2560 ซึ่งปัจจุบันราคาเริ่มทรงตัว แต่อย่างไรก็ดีแม้ว่าราคาทองแดงขึ้นมา แต่ค่าแรงการแปรรูปทองแดงเป็นแผ่นทองแดงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวลงช่วยทดแทนราคาทองแดง ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบ ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อยู่ที่ค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่ควบคุม ไม่ได้มากไปกว่าการบริหารงานและการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมการใช้จ่าย ลดต้นทุนดำเนินงาน

MP17-3286-A “ค่าแรงการทำแผ่นทอง แดง หรือ Copper foil ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตามความต้องการคอปเปอร์ฟอยล์ ที่ลดลง ช่วยทดแทนราคาทองแดงที่สูงขึ้น ณ วันนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนทองแดง ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีที่ผ่านมา แต่ไม่มั่นใจค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้น เชื่อว่าการบริหารงานที่ดีขึ้นของ KCE จะช่วยลดผลกระทบจากเงินบาทแข็งได้ และเชื่อว่าไตรมาส 3 จะดีขึ้น ผลกระทบทั้งเงินบาท ราคาทองแดง ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาสะท้อนรับข่าวร้ายไปหมดแล้ว ราคาปัจจุบันถือว่าสมเหตุสมผล” แหล่งข่าวกล่าว

บทวิเคราะห์บล.กสิกรไทยฯ ระบุว่า ระยะยาว KCE ยังเป็นบริษัทที่ได้ประโยชน์ที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์อิเล็กทรอ นิกส์ ที่เติบโตเร็ว แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 120 บาท

บล.บัวหลวงฯ ระบุว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา หุ้น KCE ปรับตัวขึ้นร้อนแรงจาก 4 บาทในปี 2555 บาท ทำสถิติสูงสุด 130 บาท ช่วงปลายปี 2559 สะท้อนการเติบโตของกำไรเฉลี่ย ปี 2556-2559 ที่ 41% และชะลอตัวจากปัจจัยเหนือการควบคุม อย่างไรก็ดีการเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานใหม่ และ อุปสงค์สินค้าของ KCE ยังแข็งแกร่ง คาดกำไรหลักปี 2560 จะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้น 3-5%

สำหรับราคาทองแดงไตรมาส 3 ยังอยู่ในระดับสูง ประเมินว่าราคาทองแดงที่สูงขึ้นทุก 1% จะกดดันสมมติฐานกำไร KCE 0.3% ก่อนหน้านี้เราคาดราคาทองแดงจะอยู่ในกรอบ 5,000-5,550 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตันในปี 2560 ปีนี้ ประเมินราคาเฉลี่ยใหม่ที่ 5,700-6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน กระทบต่อประมาณการกำไร ประมาณ 4% ราคาทองแดงที่ประเมินใหม่ถือเป็นสถานการณ์กรณีเลวร้ายที่สุด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,286 วันที่ 10 -12 สิงหาคม พ.ศ. 2560