พาณิชย์ ถอดโมเดล Magnet Market บุฟเฟ่ต์ทุเรียน ทวงแชมป์ผลไม้เมืองร้อน

20 มิ.ย. 2560 | 11:59 น.
พาณิชย์ ทวงแชมป์ผลไม้เมืองร้อน ผ่านตลาดสินค้าเฉพาะ Magnet Market บุฟเฟ่ต์ทุเรียน สกัดปัญหาผลไม้ราคาตกต่ำ ขยายกลไกการค้า Thailand 4.0

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้คาดหมายว่าทุเรียนทั้งประเทศมีผลผลิตออกมาสู่ตลาดรวม 6.5 แสนตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นผลผลิตทุเรียนจากภาคตะวันออกประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 80% และในเดือนกรกฎาคม ผลผลิตจากทุเรียนภาคใต้จะเริ่มทยอยสู่ตลาดตามลำดับ โดยภาพรวมในปีนี้ผลไม้มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกชนิด เงาะ มังคุด ลองกอง ลิ้นจี่ ลำไย ฯลฯ

[caption id="attachment_166276" align="aligncenter" width="337"] นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์[/caption]

 

“ปริมาณผลผลิตเพิ่มมากขึ้นถึง 30% โดยหลักการผลผลิตมากขึ้นขนาดนี้ ราคาจะตก ราคาค้าปลีก อาทิ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองไม่ต่ำกว่า 80 บาทต่อกิโลกรัม   เงาะอยู่ในระดับราคา 20 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นที่พอใจของเกษตรกร  การที่ราคาไม่ตกในปีนี้สืบเนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ใช้การทำตลาดล่วงหน้าในประเทศ สร้างกระแสทุเรียนฟีเวอร์ ด้วยการเปิดตลาดสินค้าเฉพาะ Magnet Market โดยนำผลไม้ทุเรียน ซึ่งทราบล่วงหน้าว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดในปริมาณมาก มาสร้างจุดขายเพื่อตัดปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำโดยเฉพาะตั้งแต่ทุเรียนเริ่มออกที่เชียงใหม่ ภูเก็ต ล่าสุดจัดงาน King Fruits Paradise of Thailand : Durian Festival @ Bangkok ที่กรุงเทพฯ ร่วมกับเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คกลางกรุงที่ใหญ่มาก ระหว่างวันที่ 17-29 มิถุนายนนี”

การเปิดตลาดเฉพาะสินค้า (Magnet Market) วัตถุประสงค์มากกว่ายอดขาย คือการนำจุดแข็งของสินค้าเกษตรขึ้นมาผลักดันให้เป็นจุดขายของประเทศไทย ด้วยเชื่อมโยงความหลากหลายในทุกๆ มิติ อาทิ สายพันธุ์ เทคโนโลยีการผลิต การแปรรูป  มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งโครงสร้างอย่างมีคุณภาพ ทำให้ผลผลิตคุณภาพได้มีช่องทางในการจัดจำหน่ายมากขึ้น เพราะเป็นช่องทางตรงจากผู้ผลิตสู่ตลาด ที่จะต้องคัดสรรคุณภาพเข้ามาร่วมกิจกรรม เท่ากับยกระดับคุณภาพผู้ผลิตโดยตรง

“แต่เดิมเราเป็นประเทศผู้ผลิตทุเรียนรายใหญ่ของโลก แต่สิงค์โปรแย่งความเป็นบุฟเฟ่ต์ทุเรียนของโลกไป ฉะนั้นปีนี้ผมเอาคืนสุดชีวิต  ซึ่งไทยชนะแน่นอน ชนะน็อคด้วยไม่ใช่แค่ชนะคะแนน สามารถแย่งชิงความเป็นเจ้าบุฟเฟ่ต์ทุเรียนได้  ประการแรก จำนวนอีเว้นท์ทุเรียน ที่เกิดขึ้น ทั้งที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ และภาคเอกชนจัดกันขึ้นมา สองจำนวนยอดขายบุฟเฟ่ต์ทุเรียน สามความหลากหลายของสายพันธุ์ทุเรียน ซึ่งต่างถิ่นกำเนิดที่มา ประกอบกับสี่ บรรยากาศอีเว้นท์ ซึ่งมีกระแสหน้ากากทุเรียนฟีเวอร์เข้ามาสอดรับฤดูกาลของทุเรียนในปีนี้ได้อย่างพอดี ดังนั้นทุกอย่างสะท้อนการบริโภคทุเรียนภายในประเทศเติบโตอย่างเห็นได้ชัด”

son201

ณ วันนี้ไทยสามารถทวงแชมป์บัฟเฟ่ต์ทุเรียนโลกกลับมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย วันนี้แพ้ไทยา การกระตุ้นตลาดในลักษณะนี้มีแผนที่จะขยายในตลาดต่างประเทศต่อไป เพื่อรองรับผลผลิตรุ่นใหม่ๆ ที่จะออกสู่ตลาดใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นแผนที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้ประเทศไทยเป็นมหานครผลไม้เมืองร้อน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้

สำหรับกลยุทธ์ Magnet Market ทุเรียน ในแหล่งท่องเที่ยว เป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้เติบโตสู่การส่งออกในอนาคต อาทิ ประเทศจีน เมื่อนักท่องเที่ยวจีน ได้มีโอกาสลิ้มรสทุเรียน และได้บอกต่อถึงความเอร็ดอร่อยของทุเรียนไทย เมื่อเขากลับไปประเทศเขา แม้จะไม่ได้มาเที่ยวประเทศไทยอีก ก็ยังถวิลหาทุเรียน ซึ่งก็คือ Demand ที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ดังนั้นการจะสร้างตลาดใหม่ ไม่ใช่มองแค่ส่งออกเท่าไร แต่ต้องไปสร้าง Demand ให้เกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ  ขณะเดียวกันสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยเป็นการสร้าง Event of Thailand ในแต่ละช่วงเวลา  บุฟเฟ่ต์ทุเรียนไทย ก็จะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่อยู่ในใจนักท่องเที่ยว

“การจะก้าวเป็นมหานครผลไม้เมืองร้อน หรือผู้นำตลาดที่ครองส่วนแบ่งตลาดรายใหญ่สูง ไม่ใช่เฉพาะยอดส่งออก หรือยอดบริโภคในประเทศ แต่จะต้องทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในทุกด้าน ทั้งกลไกราคา เทคโนโลยี สายพันธุ์ การแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนเกษตรกร

ทั้งนี้ผลสำเร็จทั้งหมดไม่ได้เกิดจากกระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นการส่งเสริม ผลักดัน จุดประกายให้เกิดพลังขึ้นมา ทั้งนี้กลไกความยั่งยืนที่แท้จริงต้องเกิดจาก เอกชน เกษตรกร ทั้งประเทศลุกขึ้นมาดำเนินการ โดยกระทรวงพาณิชย์เพียงแค่ยิงพลุขึ้นไปให้ นั่นคือการทำงานที่จะนำไปสู่ความยั่งยืน ให้เกิดการขับเคลื่อน GDP ให้ได้ Thailand 4.0 ทางผลไม้  ไม่ต้องกลับไปสู่วังวนเดิมๆ รอล้งมาซื้อจากสวน แก้ปัญหาผลผลิตตกต่ำเหมือนที่ผ่านมา