ทริสคงเครดิต ITD หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิระดับ BBB-

27 เม.ย. 2560 | 10:28 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ITD และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ระดับ BBB- สะท้อนสถานะมั่งคงและผลงานเป็นที่ยอมรับ

บริษัท ทริสเรทติ้ง ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ BBB- พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2565 ของบริษัทที่ระดับ BBB- เช่นเดียวกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิม

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะที่มั่คงของบริษัทในธุรกิจรับเหมาก่อสรางภายในประเทศ ตลอดจนผลงานที่เป็นที่ยอมรับและความสามารถในการรับงานก่อสร้างหลากหลายประะภท การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงโครงการที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) จำนวนมากและมีความหลากหลาย ณ สิ้นเดือน ธ.ค.2559 มีจำนวน 269,000 ลานบาท ตลอดจนแนวโน้มในเชิงบวกของธุรกิจรับเหมาก่อสรางภายในประเทศด้วย

อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงและภาระหนี้ที่สูงของบริษัท รวมถึงความเสี่ยงจากการดำเนินโครงการระยะยาวและลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือคงที่ สะท้อนความคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถประมูลงานใหม่จำนวนมากได้อยางต่อเนื่อง อีกทั้งจะยังรักาษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ รวมถึงเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและรักษาสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มความเข้มแข็งของโครงสร้างเงินทุนให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินงานในโครงการลงทุนระยะยาวได้โดยที่ยังคงรักาาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสรางเงินทุนให้ต่ำกวา 70% หรืออัตราส่วนเงินกู้ต่อส่วนผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับต่ำกวา 2.3 เท่าได้ในช่วงปี 2560-2562

สถานะการเงินที่อ่อนแอของบริษัททำให้โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้ามีค่อนข้างจำกัด ในขณะที่อันดับเครดิจและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงถดถอยหรือบริษัทมีการกู้ยืมเงินจำนวนมาก เพื่อใช้ลงทุนจนเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสรางเงินทุนอยู่ในระดับเกินกว่า 70% เป็นเวลานาน