KEY
POINTS
*** มหาอุทกภัยใหญ่ถล่มภาคใต้นํ้าท่วมหนักทุกจังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ไล่ลงไปถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ล้วนท่วมหนักทั้งสิ้น ว่าเฉพาะสงขลา ในตัวเมืองหาดใหญ่หนักสุดในรอบหลายปี ชาวบ้านติดบนหลังคาบ้าง ชั้น 2 บ้าง การลำเลียงอาหารพร้อมรับประทานเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ตลอดช่วงสุปสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงต้นสัปดาห์นี้ มวลนํ้ายังคงลดลงน้อยมาก ฉะนั้นทุกหน่วยทั้งภาครัฐ และ อาสาสมัคร เอกชน ต้องร่วมมือ ร่วมใจกันช่วยเหลือชาวปักษ์ใต้ให้พ้นพิษภัยนํ้าท่วมรอบนี้ไปให้ได้
*** หลังจากนํ้าลด รัฐบาลภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรี ต้องลงไปเกาะติดพื้นที่อย่างใกล้ชิด อำนวยการเพื่อฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่นับเงินชดเชย 9 พันบาท ที่ต้องเร่งรัดเบิกจ่าย แต่การฟื้นฟูเครื่องไม้เครื่องมือทำมาหากิน กรณีเสียหายอย่างสิ้นเชิงต้องรีบเร่ง การบูรณะซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ต้องเร่งรีบ ใครไม่เจอกับตัวเองไม่รู้ วิกฤตินํ้าท่วมลำบากสาหัสจริงๆ หน่วยงานรัฐต้องทำหน้าที่ให้เข้มแข็งมากกว่าอาสาสมัครกู้ภัย เวลาเกิดสถานการณ์ คนมักจะเห็นอาสาสมัครกู้ภัยเต็มไปหมด แต่หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่และมีอำนาจโดยตรง กลับช้ากว่า 2-3 ก้าวเสมอ บางแห่ง บางงานปล่อยให้อาสมัครกู้ภัยทำงานตามลำพัง อย่างนี้รับเงินเดือนประจำอยู่ได้อย่างไร
*** ตะลึงพรึงเพริดไปทั้งบาง เมื่อ อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาสภาพัฒน์ออกมาแถลง คนไทยยังคงจมกองหนี้ โดยไตรมาสสอง ปี 2568 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า 16.31 ล้านล้านบาท ลดลง 0.3% สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 86.8% แต่สินเชื่อส่วนบุคคลที่ค้างชำระเกิน 90 วันขึ้นไป (NPLs) จากข้อมูลเครดิตบูโร มีมูลค่า 1.24 ล้านล้านบาท สัดส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวม ร้อยละ 9.11 เพิ่มขึ้นทุกประเภทสินเชื่อ
ชัดๆ คือความสามารถในการชำระหนี้ถอยลง สินเชื่อส่วนบุคคล ขยายตัวเร่งขึ้นจาก 3.8% ในไตรมาสหนึ่ง ปี 2568 เป็น 4.1% ในปัจจุบัน สินเชื่อเพื่อยานยนต์ หดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลหดตัว 2.6% ขณะที่ยอดยึดทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 210% โดยเฉพาะบ้านและคอนโดราคาตํ่ากว่า 1 ล้านบาท
*** ภาพการจ้างงานสะท้อนเศรษฐกิจ ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.5% เทียบปีก่อน โดยมีจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด 39.9 ล้านคน การจ้างงานภาคเกษตรลดลงไป 2.9 % มาจากปัจจัยหลักคนไทย คนรุ่นใหม่ ไม่นิยมประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมยังคงขยายตัวได้ 0.6% สาขาที่เติบโตสูงสุด สาขาขนส่งและจัดเก็บสินค้า ที่ขยายตัวถึง 4.9% ตามมาด้วยสาขาการผลิตและสาขาค้าส่งค้าปลีก ขณะที่สาขาโรงแรม และภัตตาคารหดตัวลง 0.6% สะท้อนภาวะการท่องเที่ยวที่ยังซบเซา
*** อัตราการว่างงาน อยู่ที่ 0.76% หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงาน 3.1 แสนคน ตัวเลขผู้เสมือนว่างงาน (ผู้ที่ทำงานน้อยกว่าเกณฑ์) กลับเพิ่มสูงขึ้น 8.7% มีจำนวนราว 1.7 ล้านคน โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภาคเกษตรที่ต้องหยุด หรือชะลอการทำงานจากภัยพิบัติ รายได้ ค่าจ้างเฉลี่ยของลูกจ้างเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% อยู่ที่ 13,740 บาทต่อคนต่อเดือน แต่ค่าจ้างเฉลี่ยในภาพรวมกลับลดลง 0.3% สวนทางกับความกังวลของแรงงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับปัญหาราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
*** อดใจรออีกนิด ค่อยๆ ทะยานขึ้นมาสำหรับ “ราคาข้าวเปลือก” ที่พี่น้องชาวนาเดือดร้อนแสนสาหัส แต่กระทรวงพาณิชย์ โดย ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ เดินสายตกลงขายข้าวไม่หยุด สิงคโปร์ จีน 5-6 แสนตัน ผลพวงตามมาหลังมีออเดอร์ จิตวิทยาทำให้ราคาขยับขึ้น อย่างนี้เขาเรียกทำงานเป็น เป็นการแทรกแซงรูปแบบหนึ่งในเชิงการตลาด
เมื่อมีออเดอร์ พ่อค้าก็ต้องไล่ซื้อข้าวเก็บสต็อกรอส่งมอบ เมื่อแย่งกันซื้อราคาก็ขยับ ไม่ต้องพึ่งพาเงินอุดหนุน หรือประกันราคากันอย่างเดียว เมื่อมีออเดอร์มากๆ ทุกคนก็ต้องแย่งกันซื้อ กลัวไม่มีของส่งมอบ กลัวผิดสัญญา ราคาก็วิ่ง ล่าสุดเจรจากับ ผู้บริหาร Otis McAllister ผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ของสหรัฐฯ ขายข้าวเพิ่มเข้าตลาดสหรัฐเลย และบอกด้วยว่าเราพร้อมเป็น Food Security Hub สำรองอาหารให้คุณ