การเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมที่ลึกซึ้งในจีน (1)

15 ก.ย. 2564 | 04:49 น.

การเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมที่ลึกซึ้งในจีน (1) : คอลัมน์ มังกรกระพือปีก โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,714 หน้า 10 วันที่ 16 - 18 กันยายน 2564

เมื่อวันก่อน ผมได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอบถามเกี่ยวกับบทความยอดนิยมในโลกอินเตอร์เน็ตของจีนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาและอยากให้คนไทยได้มีโอกาสได้อ่านแบบถอดความจากต้นฉบับภาษาจีนกันเลย 

 

ผมเรียนว่า บทความนี้ใช้ชื่อว่า “เราทุกคนสามารถสัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมที่ลึกซึ้งได้เริ่มขึ้นแล้ว” เขียนโดย หลี่ กวงหม่าน (Li Guang Man) บล็อกเกอร์ชื่อดัง และเริ่มตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมผ่านวีแชต สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของจีน และตามด้วยการตีพิมพ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ชั้นนำจำนวนมากที่ล้วนเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

 

หัวใจของบทความนี้พูดเกี่ยวกับ “การเปลี่ยนแปลงเชิงสังคม” ครั้งใหญ่ของจีน วันนี้ผมเลยขออนุญาตไปถอดสาระจากบทความดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนกัน โดยขอเพิ่มเติมคำอธิบายเพิ่มเติมเป็น (ตัวเอน) เพื่อเราจะได้รับรู้และเข้าใจได้ว่าทำไม สี จิ้นผิง สั่งจัดระเบียบครั้งใหญ่ ควบคุมกิจการ “ฟองสบู่” อย่างเข้มข้น และเดินหน้าปฏิวัติทางวัฒนธรรมจีนครั้งใหม่อย่างจริงจัง เราไปติดตามกันเลยครับ ...

 

อุตสาหกรรมบันเทิงของจีนไม่เคยขาดข่าวฉาว เมื่อไม่นานมานี้ความวุ่นวายของ Wu Yifan (อู่ อี้ฝาน) Huo Zun (ฮั่ว จุน) และ Zhang Zhehan (จาง เจ๋อฮั่น) ที่ไปเยือนศาลเจ้ายาซูกูนิ (Yasukuni) ล่าสุดก็มีข่าวการถูกล่วงละเมิดทางเพศของ Qian Feng (เฉียน เฟิง) ผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์หูหนาน (Hunan Satellite TV) ข่าวเหล่านี้มักทำให้คนรู้สึกว่า วงการบันเทิงจีนเหลวแหลก หากเราไม่แก้ไข ไม่เพียงแต่วงการบันเทิงเท่านั้นที่จะยํ่าแย่ แต่วงการวัฒนธรรม วรรณกรรม ศิลปะการแสดง และภาพยนตร์และโทรทัศน์ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

 

เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พายุก็โหมกระหนํ่าอีกครั้ง และนำไปสู่ความโกลาหลในวงการบันเทิงยิ่ง สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซกลางของจีน (Central Cyberspace Administration of China) ได้พยายามอย่างหนักในการแก้ไข “กลุ่มแฟนคลับดารา”

 

ขณะที่กรมสรรพากรก็เล่นงาน Zheng Shuang (เจิ้ง ส่วง) ในข้อหาเลี่ยงภาษีเกือบ 300 ล้านหยวน ตามมาด้วยการ แบนดาราดังอย่าง Zhao Wei (จ้าว เวย) และ Gao Xiaosong (เกา เสี่ยวซง) เหตุการณ์เหล่านี้กำลังส่งสัญญาณอะไร

 

การเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมที่ลึกซึ้งในจีน (1)

 

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา CCAC ได้ออกประกาศจัดระเบียบครั้งใหญ่เพื่อจัดการความโกลาหลในวงการบันเทิงของจีน โดยเสนอข้อกำหนด 10 ประการ อันได้แก่

1. การยกเลิกการจัดอันดับดาราศิลปิน 

2. การปรับเปลี่ยนกฎการจัดอับดับศิลปิน 

3. การควบคุมบริษัทตัวแทนดาราศิลปินอย่างเคร่งครัด 

4. การควบคุมบัญชีกลุ่มแฟนคลับ 

5. การห้ามมิให้นำเสนอข้อ มูลโจมตีกันและกันอย่างเคร่งครัด 

6. การเก็บกวาดการเข้ากลุ่มที่ผิดกฎหมาย 

7. การไม่ชักชวนให้แฟนคลับใช้จ่ายซื้อสินค้า 

8. การเสริมสร้างการจัดการการระบบควบคุม 

9. การควบคุมพฤติกรรมผู้เยาว์ 

10. การสร้างมาตรฐานการหาสปอนเซอร์ 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมกรมสรรพากรจีนได้ประกาศคำตัดสินลงโทษกรณีการเลี่ยงภาษีขอ เจิ้ง ส่วง โดยจากการสอบสวนพบว่า เจิ้ง ส่วง แสดงในละครทีวีเรื่อง “A Chinese Ghost Story” ในปี 2019 และตกลงกับผู้ผลิตว่าจะจ่ายเงิน 160 ล้านหยวน และได้รับเงินจริง 156 ล้านหยวน ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก 48 ล้านหยวน ซึ่งเปลี่ยนเป็นรายได้นิติบุคคลเข้าบริษัทหลีกเลี่ยงภาษี และส่วนที่สอง 108 ล้านหยวน ผู้ผลิตละครทำ “สัญญาทิพย์” กับบริษัทของเจิ้ง ส่วงในรูปแบบของการชำระเงิน “เพิ่มทุน” เพื่อให้ปกปิดรายได้ 

 

จากรายการดังกล่าว เจิ้ง ส่วง ถูกตรวจพบว่าหลีกเลี่ยงภาษีกว่า 43 ล้านหยวน จ่ายภาษีน้อยกว่าที่ควรจะเป็นกว่า 16 ล้านหยวน นอกจากนี้ ในปี 2018 เจิ้ง ส่วงก็จ่ายภาษีน้อยกว่ากำหนดอีกกว่า 1 ล้านหยวน และระหว่างปี 2019-2020 เจิ้ง ส่วง ไม่ได้ยื่นชำระภาษีเงินได้บุคลธรรมดาตามกฎหมายกว่า 190 ล้านหยวน หลีกเลี่ยงภาษีกว่า 45 ล้านหยวน และจ่ายภาษีตํ่ากว่ากำหนดมากกว่า 26.5 ล้านหยวน 

 

ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เจิ้ง ส่วง ถูกปรับรวม 299 ล้านหยวนจากการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้า และค่าปรับ ซึ่งเท่ากับว่า ในส่วนของการหลีกเลี่ยงการชำระภาษีเงินได้ ภาครัฐเรียกคืนเงินตามกฎหมายถึงราว 71.8 ล้านหยวน บวกค่าธรรมเนียมล่าช้า 8.9 ล้านหยวน และค่าปรับสี่เท่าราว 30.7 ล้านหยวน 

 

อีกส่วนหนึ่งก็คือ “การเพิ่มทุน” เข้าข่ายการหลีกเลี่ยงภาษีที่ปกปิดรายได้ โดยปรับเป็นเงิน 188 ล้านหยวน ตามกฎหมายอาญาของสาธารณรัฐประชาชนจีน หากไม่ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด กรมสรรพากรจะโอนคดีไปยังหน่วยงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ  

 

นอกจากนี้ สำนักงานบริหารวิทยุ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ของรัฐยังได้ออกประกาศที่กำหนดให้องค์กรกระจายเสียงและโทรทัศน์ในทุกระดับ สถานประกอบธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์ และองค์กรบริการภาพและเสียงเครือข่ายหยุดการเชิญ เจิ้ง ส่วง เข้าร่วมการผลิตรายการ และหยุดออกอากาศรายการที่มีเจิ้ง ส่วงเข้าร่วมทั้งหมด  

 

เมื่อเร็วๆ นี้ จ้าว เวย ซึ่งมักพาดหัวในรายการข่าวต่างๆ กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม คำพูดสุดฮิตของ จ้าวเวย หายไปจากเวยปั๋ว (Weibo) และละครหลายเรื่อง เช่น “Returning the Pearl” และ “Deep Love in the Rain” ที่นำแสดงโดยจ้าว เวย ถูกลบออกจากเว็บไซต์ของเทนเซนต์(Tencent) และอ้ายฉีอี้ (iQiyi)

 

อันที่จริงแล้ว จ้าว เวย น่าจะตกกระแสและหายไปจากสายตามวลชนจีน ตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เมื่อเธอไปถ่ายแบบด้วยการสวมใส่เสื้อผ้ารูปธงอาทิตย์อุทัยของญี่ปุ่น แต่ในครั้งนั้นเธอกลับไม่ได้ถูกประณามหรือลงโทษแต่อย่างใด  

 

ในเวลาต่อมา เธอพัฒนาชื่อชั้นของตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ และได้ดิบได้ดีทำเงินมหาศาลจากตลาดหลักทรัพย์ของจีน จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “(วอร์เรน) บัฟเฟตต์เวอร์ชั่นผู้หญิงจีน” ในช่วงนั้น เธอได้รู้จักกับ Ma Yun (หม่า หยุน หรือ แจ็ก หม่าที่คนไทยรู้จักนั่นเอง) ทำให้ข่าวด้านลบเกี่ยวกับเธอก็มักจะถูกเคลียร์ออกจากระบบจนหมดสิ้น 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่นๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน