หวั่นติดเชื้อ“คลัสเตอร์โรงงาน”ฉุดการส่งออก

25 มิ.ย. 2564 | 23:00 น.

หวั่นติดเชื้อ“คลัสเตอร์โรงงาน”ฉุดการส่งออก : บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3691 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย.2564

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นมาอยู่ในระดับกว่า 3-4 พันคนต่อวัน ถือว่าอยู่ในขั้นรุนแรง ที่ยังไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันการระบาดได้ หลายฝ่ายประเมินกันว่า การติดเชื้อรายใหม่ในระดับนี้อาจจะนำไปสู่การระบาดระลอกที่ 4 ได้

ในขณะที่การฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ยังอยู่ในวงจำกัด หรือยังมีความปั่นปวน ไม่ชัดเจน ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนให้เป็นไปอย่างทั่วถึงได้เมื่อใด ปัจจุบันมีการฉีดเข็มที่ 1 และ 2 ได้กว่า 8 ล้านโดสเท่านั้น ถือว่าอยู่ในปริมาณน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรราว 66 ล้านคน

จากวิกฤติที่เกิดขึ้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 หรือจีดีพีของประเทศใหม่ จากประมาณการเดิมเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ลดลงเหลือ 1.8% จากประมาณการเดิมที่คาดไว้โต 3.0% และปรับจีดีพีปีหน้าลดลงเหลือ 3.9% จาก 4.7% เพราะเห็นว่าการเติบโตเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ จากการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด สายพันธ์ใหม่ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีทิศทางชะลอตัว

ประกอบกับจำนวนของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ มีโอกาสที่จะเห็นต่ำกว่า 7 แสนคน จากที่ประมาณการณ์ไว้ หากการระบาดโควิดยังยืดเยื้อกว่าที่คาดไว้

ธปท.ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยในช่วง 4-5 เดือนข้างหน้านี้ จะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นการแข่งขันกันระหว่างไวรัสที่กลายพันธุ์กับการจัดหาและฉีดวัคซีน ให้เพียงพอและทันกาล ไม่เช่นนั้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญวิกฤตมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ความหวังเดียวที่จะช่วงพยุงภาวะเศรษฐกิจของประเทศได้ อย่างภาคการส่งออก ขณะนี้เองก็อาจจะร้อนๆ หนาวๆ ว่าจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวได้หรือไม่

 แม้กระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขส่งออกของเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 23,058 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 41.5% และภาพรวม 5 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไทยมีมูลค่า 108,635 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็ตาม

เนื่องจากข้อกังวลของผู้ส่งออก ที่เห็นว่า การส่งออกของไทยยังมีปัจจัยเสี่ยง จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ในคลัสเตอร์โรงงานทั่วประเทศ ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อตัวเลขสะสมจำนวน 10,643 คน จากโรงงาน 183 แห่ง ใน 28 จังหวัด และหากลุกลามมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ และการฉีดวัคซีนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน 50 ล้านโดส

ภายในราวกลางตุลาคม 2564 นี้ ที่รัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศใน 120 วัน หากสามารถดำเนินการได้ ก็อาจจะส่งผลต่อภาพการส่งออกโดยรวมของประเทศ ที่หลายฝ่ายคาดหวังว่าปีนี้จะโตได้ที่ระดับ 5-10% ได้

ถึงเวลานี้ทุกฝ่ายพยายามออกมาวิงวอนรัฐบาล ให้สามารถสกัดกันหรือควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดให้ได้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการควบคุมการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานที่ผลิตและส่งออกให้ได้ เพราะไม่เพียงแต่สกัดการแพร่ระบาดแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ หรือความปลอดภัยของสินค้าที่จะส่งออกไปของประเทศด้วย