ทีนี้ก็จะกล่าวถึงว่านอกจากข้าวมันมะพร้าว_ข้าวมันไก่แล้ว ยังเกิดมีข้าวมันขึ้นอีกสองสามประเภทในขบวนการข้าวมัน ข้าวมันกุ้งเข้ากะปิกินกับน้ำซุปเดือดพล่านเข้าสมุนไพรนามว่าบักกุดเต๋แห่งเมืองปีนังนั้นก็มี หรือจะไปเมืองอื่นเขาที่มีชุมจีนตื่นเช้าๆกินกับต้มเครื่องในที่ใสๆคล้ายกับต้มเลือดหมูบ้านเราก็อร่อยโอชา
ฝ่ายมลายูเรียกกันว่า แยมไรซ์ เพราะว่าใส่แยม-Yam หรือ เผือกปนเข้าไปด้วยเอาหอม เขาเอาไปผัดด้วยกุ้งแห้งๆ บางเจ้าใส่กะปิปีนังที่ยังเห็นกุ้งอวดตัวอยู่ แล้วเอาข้าวดิบที่ผัดเผือกนั้นไปหุง เป็นงานครัวของพวกบ้าบ๋าย่าหยา นอนย่า
ควิซีน ประสาวัฒนธรรมลูกจีนลูกมุสลิมกินเครื่องเทศเครื่องปรุงแถบมหาสมุทรช่องแคบ
ที่ช่องแคบมะละกาตรงเมืองมะละกาทีเดียวนั้นข้าวมันไก่ของเขาปั้นก้อน เป็นก้อนๆสักขนาดวงนิ้ว ปากกว้างกินคำเดียวก็หมด รับประทานด้วยไก่ต้มสับมาราดซอส จึงเป็นกรณีข้าวมันไก่ก้อน บริการขายอยู่ตามร้านข้าวมันไก่ทั่วไปในเมืองนั้น
อาจจะไม่ค่อยถูกปากบุคคลไทยจีนผู้พิสมัยข้าวกรากให้รสสัมผัสเต็มเม็ด ประเภทว่านิยมเคี้ยวขบทีละเม็ดทีละหน่วยมากนัก ทว่าการเดินทางไปในถิ่นแปลกตา, โภชนาท้องถิ่นน่าแปลกใจนั้น ยังให้อิ่มใจเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว พอทดแทนกันได้กับความสุขาในรสชาติแตกต่าง อย่างว่าชดเชยอารมณ์พึงพอใจ_พอไหว
กรณีนี้พวกฝรั่งสวีดิชเมืองสวีเดนคงแปลกใจว่ากระไรหนอบ้านฉันสู้อุตส่าห์หุงข้าวเป็นตัวๆ แล้วเอาเนื้อเอาผักบดอัดเข้ากันเป็นก้อนๆราดน้ำหยั่น เกรวี่ เอามากินกับข้าวหุงสวยเรียงเมล็ดงามงด เป็นกรณีเรียกว่า_ Meat Ball ก็เอร็ดอร่อยโอชา แล้วไฉนไหนชนมาเลย์มะละกาถึงเวลามาปั้นข้าวสับเนื้อกลับกันเสียฉิบ!
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 23 ฉบับที่ 3,661 วันที่ 14 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2564