ช่องโหว่ “ขายสุรา” ออนไลน์ “ของหนีภาษี” บานสะพรั่ง

24 ธ.ค. 2563 | 04:09 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2563 | 11:22 น.

ช่องโหว่ “ขายสุรา” ออนไลน์ “ของหนีภาษี” บานสะพรั่ง : คอลัมน์ทางออกนอกตำรา ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3638 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 24-26 ธ.ค.2563 โดย...บากบั่น บุญเลิศ

 

          คำสั่งของกรมควบคุมโรค ที่ออกประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 2563 ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนักต่อผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) ที่เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ต้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว

          เพราะคำสั่งดังกล่าวทำให้ธุรกิจการขายเครื่องดื่มแอลกอล์ฮอล์ที่มีมูลค่าการตลาดปีละ 4,000-5,000 ล้านบาท จากตลาดรวมของสุรา เหล้า ไวรน์ เบียร์ปีละกว่า 3.2-3.5 แสนล้านบาท กระทบกระเทือนอย่างหนัก หลังจากพิษโควิดทำให้ตลาดสุราในบ้านเรายอดขายลดฮวบฮาบ 16-18%

          ข้อทักท้วงของสมาคมฯ มี 5-6 ประเด็นหลัก ที่รัฐต้องหาทางแก้ไข

          1. ประกาศฉบับนี้ อาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และเมื่อพิจารณาในหมายเหตุ ซึ่งเป็นเหตุผลท้ายพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ว่า “...ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนโดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย” เจตนารมย์จึงเป็นการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่กำจัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

          2. ประกาศฉบับนี้ ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก ที่ได้ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยที่ต้องการลดปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายลง 10% ในปี 2025  

          3.ข้ออ้างว่าการห้ามขายออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางทำให้เด็กเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้มากขึ้น ในความเป็นจริงแล้ว เด็กที่เขาจะดื่มเขาดื่มเลย ไม่มานั่งรอสั่งซึ่งต้องมีการจัดส่ง และมีวิธีในการควบคุมไม่ให้เด็กเข้าถึงก็มีมากมาย เช่น ต้อง log in เข้ามา ต้องมีเอกสารยืนยัน ต้องตรวจสอบเบอร์โทร. ฯลฯ แต่ประกาศที่ออกมากลับตามไม่ทัน

          4. ในด้านเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-19 ทำให้ภาครัฐส่งเสริมโดยกำหนดเป็นนโยบายในเรื่องธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ประกาศฉบับนี้ ไม่ตอบข้อบัญญัติในเรื่องนี้แต่อย่างใด

          5. การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ นอกจากจะช่วยลดการเดินทางในการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว ยังช่วยลดปัญหาการจราจรบนท้องถนน และเมาแล้วขับอีกด้วย 

          6. ข้อเท็จจริงผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ที่สร้างปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจมาโดยตลอดก็คือ พวกขายสินค้าผิดกฎหมาย ที่รัฐควรเข้าไปเข้มงวด มิใช่กลุ่มขายออนไลน์...แต่ละข้อล้วนเป็นเหตุผลของผู้ประกอบการ

          แต่ในความคิดของผม เห็นว่า ประกาศฉบับดังกล่าว น่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเพิ่มอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน และการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ประกอบการ ที่อาจเกิดจากการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ 

ช่องโหว่ “ขายสุรา” ออนไลน์ “ของหนีภาษี” บานสะพรั่ง

 

          ในมิติของการแข่งขันในธุรกิจ ผมว่าการทำตลาดของผู้ประกอบการแอลกอฮอล์จะเผชิญความท้าทายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากช่องทางการทำตลาดถูกจำกัดมากขึ้น รายใหญ่อาจมีช่องทางจำหน่ายได้ เพราะประกาศฉบับนี้ไม่ได้ห้ามการขายแบบ B2B จึงมีความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่รายเล็กสลบแน่นอน

          ในความคิดของผมจึงเห็นว่า การออกกฎหมายห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านออนไลน์ น่าจะช่วยให้ภาครัฐป้องกันหรือจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผ่านช่องทางออนไลน์ของเยาวชนได้แน่นอน

          มิติของการป้องกันเยาวชนเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น คุณอรทัย วลีวงศ์ นักวิชาการ สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) เคยชี้แจงไว้ว่า “การได้รับสื่อโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอิทธิพลต่อการเริ่มต้นดื่มของเด็กและเยาวชน ปัจจุบันมีเทคนิคทางการตลาดที่ดึงดูดเยาวชนมากมาย สร้างนักดื่มหน้าใหม่ในยุคการค้าเสรีและยุคดิจิทัล ที่การโฆษณาต่างๆ สื่อสารแพร่หลายในทุกทิศทาง จนกลายเป็นปัญหาข้ามพรมแดน บริษัทเหล้ายักษ์ใหญ่สามารถโฆษณาแพร่กระจายไปทั่วโลก หากประเทศใดไม่มีกฎหมายควบคุมจะต้องแบกรับผลกระทบที่ตามมาจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น... 

          แต่การที่ประเทศไทยได้ออกอนุบัญญัติห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออนไลน์ ที่เป็นค้าปลีกแล้ว จึงถือเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นที่จะส่งผลดีต่อเด็ก เยาวชนและสังคมไทยโดยภาพรวม” คุณอรทัย ยืนยันแบบนี้ ซึ่งผมเห็นด้วย

          ผมเชื่อว่าการออกประกาศห้ามขายออนไลน์อย่างน้อยช่วยลดการเห็น ลดความอยากของเยาวชนลงได้ เพราะปัจจุบันมีการส่งข้อมูลการเหล้า ไวน์ ที่ราคาถูกจูงใจให้ซื้อขายมาถึงตัวเยาวชนได้แบบเรียลไทม์ ไม่จำกัดเวลา สถานที่

          ผมไม่เชื่อว่ามาตรการแบบ นิวซีแลนด์ที่กำหนดให้ผู้ขายต้องสอบถามอายุผู้ซื้อเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์และก่อนที่จะทำการขายต้องยืนยันอายุ 18 ปีขึ้นไป จะใช้ได้กับประเทศไทย เพราะสำนึกของผู้คนยังไม่ดีพอ ผมอาจจะมองร้ายไปก็ได้แต่ผมเชื่อย่างนั้น

ช่องโหว่ “ขายสุรา” ออนไลน์ “ของหนีภาษี” บานสะพรั่ง

          เช่นเดียวกันผมไม่เชื่อว่า มาตรการการขายออนไลน์แบบออสเตรเลียที่กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ขายทางอินเทอร์เน็ตต้องมีใบอนุญาตขายที่แสดงชัดเจนบนเว็บไซต์ และต้องขายให้กับผู้ซื้อที่แสดงวันเดือนปีเกิดเพื่อยืนยันอายุเกิน 18 ปี เท่านั้น และยังห้ามผู้เยาว์รับมอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต จะมาใช้กับผู้ประกอบการไทยได้ เพราะเรามีระบบการค้าออนไลน์แบบไร้มาตรฐานวิชาชีพ ใครใคร่ค้า ค้า ใครใคร่ซื้อหา ซื้อ ฉันไม่รับผิดชอบ

          นอกจากนี้ผมยังเห็นว่า การออกประกาศแบบนี้จะสกัดการขนเหล้า ไวน์ เบียร์ สปาร์กกลิ้ง หนีภาษีตามแนวชายแดน หรือตามท่าเรือได้ระดับหนึ่ง ไม่มากก็น้อย แม้จะไม่สามารถจัดการได้แบบ 100%

          ในปีงบประมาณ 2563 กรมสรรพสามิตพบการกระทำผิด 19,625 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 334.89 ล้านบาท โดยแยกเป็น สุรา  11,157 คดี ค่าปรับ 114.22 ล้านบาท ยึดของกลางเป็นน้ำสุรา 1,258,168  ลิตร ยาสูบ 5,869 คดี ค่าปรับ 137.43 ล้านบาท 

ช่องโหว่ “ขายสุรา” ออนไลน์ “ของหนีภาษี” บานสะพรั่ง

          ล่าสุดกรมศุลกากรจับกุมขบวนการขนไวน์หนีภาษีจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรบริเวณริมถนนผดุงพันธ์ แขวงหนองจอกได้ 980 ลัง มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท แต่นั่นเป็นเพียงน้ำจิ้ม

          ขบวนการขนสุรา ไวน์หนีภาษีในประเทศไทยนั้น มีการทำกันเป็นขบวนการตลอดแนวชายแดนของไทย และมีการทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ยิ่งช่วงก่อนจะมีการประกาศควบคุมการขายออนไลน์นั้น ต้องบอกว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของเหล้าไวน์หนีภาษีทีเดียว

          เส้นทางนำเข้าเหล้าหนีภาษี พบว่ามีการลักลอบขนผ่านด่านชายแดนใหญ่ๆ ทั่วประเทศ เช่น ด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ด่าน จ.ระยอง ด่าน จ.ตราด  ด่าน จ.ชลบุรี ด่านสะเดา ด่านปาดังเบ-ซาร์ ด่านสตูล ด่านสุไหงโก-ลก ด่านแม่สาย เชียงราย ที่ถือเป็นจุดใหญ่ในการขนเหล้าไวน์หนีภาษี 

          วิธีการลักลอบขนสุรา ไวน์หนีภาษี มีทั้งการทำกันเป็นขบวนการ เป็นรายใหญ่ที่ต้องใช้เส้นสายในระดับชาติ ขนกันเที่ยวละหลายร้อยลัง

          ด่านที่ขบวนการขนลักษณะนี้ที่นิยมคือด่านที่ติดทะเล ด้านชายฝั่ง จ.ตราด จ.สตูล และ จ.ชลบุรี เพราะมีแหล่งส่งสินค้ารายใหญ่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มีการขนส่งกันด้วยเรือเร็วในเวลากลางคืน เมื่อเข้ามาถึงแล้วจะมีรถกระบะเข้ามารับถึงท่าเรือ ก่อนจะกระจายสินค้าไปยังร้านค้าส่ง หรือซับพลายเออร์ เอาไปปล่อยกันอีกทอดหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ตรงเข้าไปที่สถานบันเทิงขนาดใหญ่ที่ต้องการเหล้านอกราคาถูก

          วีธีที่ 2 เป็นการขนเหล้าไวน์หนีภาษีรายย่อย ขนในลักษณะกองทัพมด แบ่งกันขนเข้ามา ด่านที่นิยมมากอันดับต้นๆ เป็นด่านแถวภาคใต้ที่มีเขตติดต่อกับโนแมนแลนด์ กองทัพมดจะแบกกระโดดข้ามกำแพง ขนข้ามแม่น้ำกันมาเลย 

          ธุรกิจนี้คนเลี่ยงภาษีรวย แม้จะแลกกับการจ่ายเบี้ยใบ้รายทางจำนวนมาก แต่ถ้าเส้นหนาก็คุ้มค่ากับการลงมือทำ
 

ช่องโหว่ “ขายสุรา” ออนไลน์ “ของหนีภาษี” บานสะพรั่ง

          ลองดูชุดข้อมูลนี้ก็ได้ นี่คือขาใหญ่ที่ภาคใต้ รับขนจากด่านสะเดา ด่านปาดังเบ-ซาร์ ด่านสตูลจากลังกาวี ขนกันมาพักไว้ที่หาดใหญ่นี่แหละ 

          “กลุ่มเจ๊ ม.” ที่มีลูกชายเชื่อ พ.เป็นหัวขบวน กระจายเหล้า ไวน์ร้านในเครือข่ายชื่อ “ชี” ตั้งแต่สงขลา รัตภูมิ จะนะ สิงหนคร ด่านนอก ย่านวชิรา สงขลา ย่านม่วงงาม ที่แม่ขรี พัทลุง ควนขนุน ที่สตูลบริเวณควนกาหลง ละงู ย่านไฟแดงบิ๊กซี เลยมาถึงย่านต.ฉลุง นครศรีธรรมราช ชะอวด ร่อนพิบูลย์ หลังเซ็นทรัลนครฯ ภูเก็ต ที่เคหะฯใกล้โรงแรมรอยัล  ย่าน สามกอง

          “กลุ่ม จ่า ท.” มีนายทุน และกลุ่มคนมีสีอยู่เบื้องหลังนี่ก็ไม่เบา มีเครือข่ายในการกระจายสินค้าที่มากมาย

          “กลุ่มนายหอย” กลุ่มนี้ขยายเครือข่ายการขนเหล้า ไวน์เถื่อนออกไปยังจัหวัดอื่นๆทั่วภาคใต้และภาคกลาง

          ทั้ง 3 ราย เปิดร้านขายเหล้า ไวน์อย่างเสรี นอกจากมีหน้าร้านและเครือข่ายจำนวนมากแล้ว ทั้ง 3 กลุ่มยังเปิดขายเหล้า ไวน์ ออนไลนือย่างโจ๋งครึ่มด้วยซิครับ

          อย่าบอกว่าคนเหล่านี้ทำการค้าหนีภาษีแบบไม่มีเบี้ยบ้ายรายทางนะครับ ผมมีบัญชีการจ่ายส่วยอยู่ในมือเพียบ มีการจ่ายกันเป็นรายเดือน จ่ายกันเป็นรายสัปดาห์สนนราคาการจ่ายต่อรายการตั้งแต่ 20,000-50,000 บาท

          กลุ่ม ป.น.ม.-ตำรวจท่องเที่ยว-พี่ริดกองปราบ-พี่ยุทธ-สืบ1 สืบ2-ตำรวจน้ำ-ภาคสืบตชด.-จ่าย้ง-ดาบปาน-จ่ายักษ์

          การสกัดการขายเหล้า ไวน์ ออนไลน์ ของผู้ประกอบการรายย่อยนั้นควรทำอย่างยิ่ง สินค้าที่นำไปสู่ความสุ่มเสี่ยงในชีวิตผู้คน เยาวชนคนไทย ไม่จำเป็นต้องเน้นสะดวก รวดเร็วครับ ยิ่งซื้อหายากยิ่งดีครับ แม้จะแลกด้วยราคาที่แพง แต่เราป้องกันลูกหลานที่เป็นอนาคตของเราได้ 

          แม้ทำได้เพียงให้ชะงักงัน ลังเลในการตัดสินใจก็ถือว่าคุ้มค่ามิใช่หรือ!