ทุกข์มันอยู่ที่ใจและความคิด

29 ก.ค. 2563 | 20:00 น.

ทุกข์มันอยู่ที่ใจและความคิด : ทำมา..ธรรมะ โดย ราช รามัญ

ทุกข์มันอยู่ที่ใจและความคิด

 

            ความพ้นออกจากกองทุกข์  เป็นเป้าหมายอันสูงสุดของคำสอนในพระพุทธศาสนา ชาวพุทธบางคนอาจมีความคิดว่า การพ้นออกจากกองทุกข์ทั้งปวงเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน อีกทั้งเป็นหน้าที่ของนักพรตนักบวชมากกว่าที่ฆราวาสหรือคนธรรมดาจะสามารถปฏิบัติได้
 

            การออกสู่ความพ้นทุกข์ฆราวาสธรรมก็สามารถทำได้จริง โดยที่ไม่ต้องเข้าไปอยู่วัด ไม่ต้องไปบวช สามารถอยู่กับครอบครัว ทำงาน ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เลี้ยงลูกได้ เพราะการพ้นออกจากความทุกข์ทั้งปวงนั้น ไม่ใช่พ้นเพราะอาศัยปัจจัยภายนอก ด้วยการหลีกหนีวิเวกเสมอไป
 

            ธรรมะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลก ไม่ใช่ของหนีโลก

 

            บางครั้งการออกไปปลีกวิเวกอาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเท่ากับการใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริงของโลกด้วยซ้ำ เพราะความสงบจากวิเวกไม่อาจทำให้เกิดปัญญาอันแท้จริงได้ แต่หากเพราะมีปัญญาอย่างถ่องแท้แล้วต่างหากจึงนำเอาความสงบมาให้
 

            จากเกือบค่อนชีวิตของผู้เขียนที่เดินป่าภาวนาธรรม อย่างแน่วแน่และมั่นใจ ไปอยู่ในบรรยากาศที่วิเวกสงบได้ความสงบบ้างแบบชั่วคราว แต่ครั้นกลับมาอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งที่เคยว่าสงบก็กระเพื่อมขึ้นอีก ครูอาจารย์บางท่านบอกว่า เป็นเพราะฝึกอบรมอินทรีย์ไม่แก่กล้าพอ แต่ส่วนตัวคิดเห็นแตกต่างออกไปว่า น่าจะเป็นเพราะเราฝึกผิดหนทางสถานที่หรือไม่
 

            เราหนีไปฝึกในป่าในเขา แต่เราลืมคิดไปว่าเราไม่ได้เกิดในป่าเหมือนช้างเหมือนเสือ เราเกิดเป็นคนบ้านของคนไม่ใช่ป่า การไปแสวงหาวิเวกนั้นมีจุดหมายไปเพื่อเพาะบ่มปัญญาให้เกิดนั้นคือความจริง แต่หากไปอยู่แล้วยังไปยึดติดในความวิเวก ยึดติดป่า อากาศสบายดี อากาศโปร่ง อันนั้นถือว่ายังไม่ใช่
 

            การศึกษาธรรมเพื่อเข้าถึงความพ้นทุกข์โดยไม่ต้องไปอยู่ป่านั้นก็มีอยู่จริง หากคุณได้ศึกษาและเรียนรู้อย่างครบองค์ความรู้แล้วเชื่อได้ว่า คุณสามารถปลดปล่อยความทุกข์ติดปีกให้เป็นอิสระได้อย่างแท้จริงทันที

             สำนักวิปัสสนามีมากมาย บางแห่งเน้นไปทางด้านการปฏิบัติอย่างเข้ม บางสำนักแนะนำและสอนการพิจารณาในสิ่งต่างๆให้เกิดปัญญา
 

            ความเป็นจริงเพียงแค่คุณเดินเข้าไปสู่สำนักวิปัสสนาย่อมถือได้ว่าคุณเป็นคนที่มีจิตใจประเสริฐแล้ว เพียงแต่ยังไม่พบในสิ่งที่คุณมุ่งและปรารถนาอย่างแท้จริงนั้นเอง  การออกจากความทุกข์ตามแนวทางของพระพุทธเจ้านั้นตามความเป็นจริงไม่ใช่หลักแห่งตรรกะ แต่เป็นหลักแห่งสรรพธรรมชาติต่างหาก
 

            ดังนั้นการที่จะหอบพาหัวใจให้พ้นทุกข์ได้จริง ต้องเรียนรู้ความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ใช่เรียนรู้ตำราคัมภีร์ใบลาน ไม่ใช่เรียนรู้วิปัสสนาแบบนกแก้วนกขุนทองที่พูดได้เป็นฉากๆ ไม่ใช่มุ่งไปทำพิธีกรรม ไม่ใช่มุ่งไปแสวงหาความวิเวกในป่าเขาเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างต้องเรียนรู้ทีของจริง แล้วของจริงอยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่ใจตัวเองนี่แหละ
 

            ความทุกข์ทั้งปวงไม่ได้เกิดขึ้นที่อื่น แต่เกิดขึ้นที่ใจของเรานี่เองทั้งหมด  แต่ผู้ที่ขาดปัญญามักจะกล่าวว่า บุคคลนั้น บุคคลนี้ ทำให้ปัญหาเกิด ทำให้เรามีความทุกข์ในใจ ความจริงทุกข์เกิดขึ้นเพราะเราไม่ใช่เพราะผู้อื่นเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเราเขลาเบาปัญญาจึงคิดว่า คนอื่นทำให้เราเป็นทุกข์ อยู่เสมอ​​​​​​​