การปฏิรูประบบราชการในรัฐบาลยุค “คสช.” มีให้เห็นอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะการ “ปัดฝุ่น” หน่วยงานให้เหมาะกับนโยบายมากขึ้น ดังเช่น เปลี่ยนโฉม “กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” หรือ ไอซีที เป็น “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” หรือ ดีอี เพื่อยกระดับเทคโนโลยีเป็นหัวหอกในการนำทัพเศรษฐกิจครอบคลุมถึงการดูแลสังคมให้สงบเรียบร้อย
และยังเคยมีกระแสข่าวการผ่าหน่วยงาน อย่าง “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” แยก “ท่องเที่ยว” กับ “กีฬา” ออกจากกัน ให้เป็นคนละหน่วยงาน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงแนวคิดที่จุดไม่ติด
แต่ขณะนี้ ที่ต้องจับตาคือ การจัดตั้ง “กระทรวงการอุดมศึกษา” ขึ้นเป็นกระทรวงที่ 21 ภายใต้ระบบบริหารราชการของไทย
เรื่องนี้ “คณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)” เสนอรายงานการพิจารณาศึกษา “แนวทางการบริหารการอุดมศึกษา หรือการจัดตั้ง “กระทรวงการอุดม ศึกษา” ต่อที่ประชุมสนช. เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 ส่งต่อให้รัฐบาลนำรายงานไปพิจารณา ส่วนจะดำเนินการหรือไม่ก็สุดแล้วแต่
รายงานฉบับนี้บอกถึงปัญหาและความจำเป็นในการแยก “สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)” ออกจากชายคาของ “กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)” เพราะการศึกษาระดับอุดมศึกษามีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากการศึกษาในระดับอื่น การบริหารจัดการสถาบันอุดมศึกษาในปัจจุบันอยู่ในการควบคุมของ สกอ. สังกัดกระทรวงศึกษาฯ โดยที่กระทรวงดูแลการศึกษาของประเทศทั้งระบบ มีภารกิจงานและบุคลากรจำนวนมาก
เพราะหากดูโครงสร้างของ สกอ. มีภารกิจกำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษาจำนวนมาก ทั้งสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ หรือมหาวิทยาลัยนอกระบบ มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มรท.) 9 แห่ง สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่มีทั้ง มหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบัน และนี่ยังรวมถึงวิทยาลัยชุมชน
รายงานระบุด้วยว่า “การบริหารจัดการมีความยุ่งยาก กระบวนการทำงานมีความซํ้าซ้อน ทำให้การบริหารจัดการการศึกษาไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง และยังพบจุดอ่อนในหลายประเด็น”
อย่างเช่น สถาบันอุดมศึกษาบางแห่งยังไม่มีความชัดเจนและแน่นอนในการบริหารจัดการศึกษา เกิดความซํ้าซ้อนในการดำเนินงาน ขาดการมีส่วนร่วมของชุนชน องค์กรเอกชน และผู้ประกอบการในการพัฒนาคุณภาพอุดมศึกษา ขาดแคลนบุคลากร ความเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ระบบงบประมาณและการบริหารงบประมาณ หลักสูตรการเรียนการสอนไม่ทันสมัย ไม่มีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการของประเทศและสังคมโลก ขาดแคลนคณาจารย์ที่มีคุณภาพ เนื่องจากวิกฤติศรัทธาต่อวิชาชีพ เพราะไม่สามารถจูงใจให้คนเก่งคนดีเข้ามาเป็นอาจารย์ได้ ทำให้สถาบันอุดมศึกษามีความพยายามผลักดันและยกระดับให้เป็นสถาบันในการกำกับของรัฐ หรือออกนอกระบบ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้มีอิสระในการบริหารจัดการให้มีความเข้มแข็ง
ส่วนวิธีการการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา กรรมาธิการฯ จึงเสนอ ให้มีการจัดทำกฎหมาย 3 ฉบับ 1. “ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... 2. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา พ.ศ. ... และ 3. ร่างพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ... พร้อมกับโอนบุคลากรและภารกิจต่างๆ ของ สกอ. จากกระทรวงศึกษาฯ ไปอยู่ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา
ในรายงานยังระบุด้วยว่าข้อเสนอ นี้ไม่ได้เป็นของ กมธ. แต่เกิดจากกลุ่มประชาคมสถาบันอุดมศึกษา คณาจารย์และบุคลากรด้านอุดมศึกษาจึงมีแนวคิดที่จะแยก สกอ. ออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยจัดตั้งเป็น กระทรวงหรือทบวงที่ไม่ขึ้นตรงต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน ลดปัญหาอุปสรรค ความล่าช้าในการบริหารจัดการ และเพื่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอน
จึงต้องจับตาว่าเมื่อมีข้อเสนอนี้ออกมา รัฐบาลมีท่าทีและสานต่ออย่างไร
++สถาบันอุดมศึกษาสังกัดสกอ.
• สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ม.กาฬสินธุ์, ม.นครพนม, ม.มหาสารคาม, ม.นราธิวาสราชนครินทร์, ม.นเรศวร, ม.อุบลราชธานี, ม.รามคำแหง, ม.สุโขทัยธรรมาธิราช, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
• สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ (ม.นอกระบบ) 25 แห่ง ม.เทคโนโลยีสุรนารี, ม.วลัยลักษณ์, ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย, ม.แม่ฟ้าหลวง, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ม.มหิดล, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, ม.บูรพา, ม.ทักษิณ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.เชียงใหม่, สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, ม.พะเยา, ม.นวมินทราธิราช, สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา, ม.เกษตรศาสตร์, ม.ขอนแก่น, ม.สวนดุสิต, ม.ธรรมศาสตร์, ราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์, ม.ศรีนครินทรวิโรฒ, ม.ศิลปากร, ม.สงขลานครินทร์, ม.แม่โจ้
• มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งทั่วประเทศ
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มรท.) 9 แห่ง มรท.ธัญบุรี, มรท.กรุงเทพ, มรท.ตะวันออก, มรท.พระนคร, มรท.รัตนโกสินทร์, มรท.ล้านนา, มรท.ราชมงคลศรีวิชัย, มรท.สุวรรณภูมิ มรท.อีสาน
• สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ทั้งมหาวิทยาลัย วิทยาลัย สถาบัน
•วิทยาลัยชุมชน
เรื่อง : จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,349 วันที่ 18 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2561