นับถอยหลังTFA ไทยต้องทำอะไรอีกบ้าง?

12 ก.พ. 2561 | 23:05 น.
TP8-3339-1B ย้อนไปในเดือนธันวาคม 2557 องค์การการค้าโลก ได้บรรลุความตกลง Trade Facilitation Agreement (TFA) โดยมุ่งหวังให้ประเทศสมาชิกมีการปรับปรุงกฎระเบียบและขั้นตอนภายในประเทศ เพื่อมุ่งลดขั้นตอนและเวลาการดำเนินพิธีการทางศุลกากรและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ความชัดเจน ความโปร่งใส และให้กระบวนการที่เกี่ยวข้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้การค้าโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 โดยแจ้งว่าสามารถทำตามข้อบทของความตกลงเกือบทั้งหมดได้ภายใน 1 ปี หลังจากที่ความตกลงมีผลบังคับใช้ (เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560) โดยมีเพียง 8 ข้อบทที่ต้องขอระยะเวลาปรับตัว ได้แก่ Advance ruling/ Procedure for appeal or review/Notification and test procedures/ Discipline on fees and charges/Release and clearance of goods; pre-arrival processing/Rejected goods/Temporary admission/Freedom of transit และ Customs cooperation; exchange of information

TP8-3339-2B สิ่งสำคัญของการปฏิบัติตาม TFA คือแต่ละประเทศต้องมีคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมากำกับดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ในเดือนพฤษภาคม 2560 ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยมีรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นประธาน แต่เนื่องจากองค์ประกอบของกรรมการระดับปลัดกระทรวงมีถึง 16 ท่าน ทำให้ไม่สามารถจัดประชุมขึ้นได้ และต้องแก้ไขปัญหาโดยการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการปฏิบัติด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และมีผู้แทนเฉพาะจากภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2561 เพื่อติดตามว่าในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ไทยจะพร้อมปฏิบัติตามข้อบทที่แจ้งว่าพร้อมแล้วจริงหรือไม่ ตลอดจนได้รับทราบจากแต่ละหน่วยงานว่ามีความคืบหน้าในการดำเนินการเร็วกว่าระยะเวลาที่ขอปรับตัวไว้

ad-bkk อย่างไรก็ตาม ในฐานะของภาคเอกชนก็ขอภาวนาให้ประเทศไทยพร้อมปฏิบัติจริงตามรายงาน และมีข้อเสนอแนะว่าภาครัฐต้องยอมรับและเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการดำเนินงานภายใต้ TFA ให้มากขึ้น โดยอาจจัดตั้งคณะทำงานย่อยรายสินค้าที่มีภาคเอกชนเข้าไปทำงานร่วมกัน เพื่อเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐให้มีขั้นตอนการดำเนินงานและระบบระเบียบที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อาทิ UN/CEFACT ประการต่อมาคือ การปฏิบัติตาม TFA มิใช่แค่เพียงทำตามราย การที่ระบุในข้อบทความตกลง แต่ต้องมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างแท้จริงถึงระดับ อุตสาหกรรม ซึ่งมีการจัดทำ Roadmap เป็นแนวทางในการทำงาน โดยเฉพาะต้องกำหนด timeline และผู้รับผิดชอบหลักให้ชัดเจน โดยเฉพาะต้องมีการจัดตั้งหรือมอบหมายหน่วยงาน ทำหน้าที่เป็นสำนักงาน ของคณะกรรมการ เพื่อติดตาม ประสาน สั่งการ และบูรณาการการทำงานร่วมกันให้มีความต่อเนื่อง และประการสุดท้ายคือ ต้องผลักดันให้ TFA เป็นหนึ่งในหัวข้อความร่วมมือสำหรับการเจรจาระหว่างประเทศ... หากทำได้ตามนี้ ก็จะเกิดประโยชน์ต่อการค้าอย่างแท้จริง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,339 วันที่ 11 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว