เยี่ยมชมโรงงานแห่ง 2... และชีวิตดั่งนิยายของ ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
หลังจากการดูงาน เยี่ยมชมโรงงานและอาณาจักรธุรกิจ ไทยซัมมิท ในรัฐมิชิแกน แห่งแรกโดยทั่วถึงแล้ว ผู้เขียนได้มีโอกาสนั่งสนทนาถึงวิวัฒนาการยุคใหม่แห่งโลกาภิวัตน์ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยียุคไฮเทค ตลอดจนแนวโน้มความเป็นไปทางเศรษฐกิจ-การเงิน ของนานาอารยประเทศแล้ว ต้องยอมรับว่า ท่านประธานสมพรเป็นหญิงไทยคนหนึ่งที่มีวิสัยทัศน์กว้าง ไกล ซึ่งมองประเด็นปัญหา และวิธีแก้ปัญหาได้อย่างแหลมคม อีกทั้งเป็นคน “คิดเก่ง-ทำเก่ง” ไม่แพ้หญิงชาติใดๆ ในโลก!
วันต่อมา ดร.สมพร ก็ได้พาคณะดูงาน ด้วยรถตู้ “FORD” รุ่นหรู นั่งสบาย เดินทางไปดูโรงงานแห่งที่ 2 ที่เมืองบาดส์ทาวน์ รัฐเคนตักกี ซึ่งเป็นโรงงานที่กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จแล้วภายใต้การนำของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บุตรชายคนโต โครงสร้างตัวโรงงานสร้างด้วยวัตถุทันสมัยใหญ่โต แข็งแรงมาก เครื่องปั๊มบางตัวเริ่มผลิตงานได้บ้างแล้ว รอติดตั้งเพิ่มอีก 2 ตัวก็สมบูรณ์ ตามกำหนดการ
ในวันนั้นคณะของเราไปถึง ท่ามกลางอากาศสดใส เย็นสบาย ไม่หนาวมาก ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงและผู้ปฏิบัติงานทั้งชาวอเมริกาและญี่ปุ่นมายืนแถวต้อนรับ จากนั้นก็พาไปยังห้องประชุม พร้อมกับการขึ้นจอคอมพิวเตอร์แสดงการต้อนรับท่าน President Dr.Somporn Juangroongruangkit ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง โดยมี
Mr.J.Richard Heaton ผู้ว่า City of Bardstown, รัฐ Kentucky ได้ให้เกียรติมาร่วมให้การต้อนรับและร่วมเดินเยี่ยมชมด้วย
คณะเจ้าหน้าที่โรงงานได้กล่าวรายงานถึงระบบการบริหารก่อสร้าง และการปฏิบัติงานให้ท่านประธานสมพรได้ทราบโดยครบถ้วนแล้ว จึงพาคณะดูงานเข้าเยี่ยมชมเครื่องจักรภายในโรงงานต่อจนถึงเวลาอันควร ดร.วรวุฒิ อิทธิภักดีพงศ์ จึงพาคณะของเราไปดู สิ่งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคนไทย...นั่น คือ “Thai Summit Road” หรือ “ถนนไทยซัมมิท” นั่นเอง!
ดร.วรวุฒิ หรือ Woody เล่าให้ฟังว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติให้ตั้งชื่อ ไทยซัมมิท เป็นชื่อถนนในดินแดนสหรัฐฯ นั้นถือ ว่าเป็นเกียรติและให้ความสำคัญอย่างมากต่อโรงงาน Thai Summit เพราะเขาถือว่าคนต่างชาติที่มีศักยภาพเท่านั้น ที่สามารถมา สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่น ... ถึงกับเจ้าสัวประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานแห่ง TOA ยกนิ้วให้ พร้อมอุทานว่า สุดยอดจริงๆ
เมื่อพวกเราคณะดูงานเสร็จภารกิจเป็นทางการ หลังจากการเยี่ยมชมโรงงานที่มีเจ้าของเป็นไทยแท้เป็นที่พอใจแล้ว สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษตามมาก็น่าจะเป็นชีวประวัติของท่านประธาน ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่นเอง โดยอยากรู้ความจริงว่า...รวยมาจากไหน? รวยอย่างไร? พื้นฐานมา จากครอบครัวมั่งคั่งหรืออย่างไร?
ชีวประวัติดุจดั่งนวนิยายของ ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ “หญิงแกร่ง” ผู้ถือครองธุรกิจสินทรัพย์นับเป็นหมื่นๆ เป็นแสนๆ ล้านบาทในปัจจุบันท่านนี้...เป็นบุตรีของคนรวยท่านใด? จึงสามารถมีทุนก่อร่างสร้างตัว “รวย” ได้ถึงขนาดนี้?
ปรากฏว่าเจ้าตัวได้เล่าให้ฟังอย่างไม่อายแต่น่าขบขัน และแฝงด้วยปรัชญาชีวิต ว่าความจริงแท้แล้วเกิดมาจากครอบครัวเชื้อสายจีนที่ยากจน ตอนเป็นสาวรุ่นนั้น ชีวิตลำบากมาก ต้องบากบั่นใฝ่หาความรู้ด้วยการไปเรียนต่อด้วยตนเองในรัฐที่กันดารที่สุดของสหรัฐฯ เพราะครอบครัวพ่อแม่ไม่สามารถส่งเสียให้เรียนได้สะดวก ถึงกับต้องไปสมัครเป็นเด็กปั๊มขายนํ้ามันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง และที่น่าขำ เริ่มทำงานวันแรกเจอเจ้าของรถที่มาเติมนํ้ามันบอกให้เด็กปั๊มสาวหน้าตาเซ่อๆ คนนี้ ช่วยวัดนํ้ามันเครื่องให้ที แต่ด้วยเหตุที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรถยนต์มาก่อน จึงงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ที่วัดนํ้ามันเครื่องอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ จนเจ้าของรถขำไม่ออก แต่ด้วยความใจดีก็สอนเด็กปั๊มสาวหน้าใหม่คนนี้ว่า หนูต้องหาฝาเปิดก่อนเช็กแล้วจึงวัดได้ แต่เด็กปั๊มใหม่คนนี้ก็หาไม่เจอเสียที ทำให้นึกขำและสงสารตัวเองจนบัดนี้...(ฮา)
ครั้น... เรียนอยู่อเมริกาได้ประมาณ 3 ปี กามเทพก็นำศรรักมาปักใจ เกิดรักใคร่กับหนุ่มที่ชื่อ “พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ”
ซึ่งขณะนั้น เป็นแค่เจ้าของร้านทำเบาะรถยนต์เล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่าเขาเป็นคนขยันขันแข็งทำงานหาเงินสร้างตัวอย่างอดทนไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค เมื่อได้แต่งงานแล้วต่างมุ่งหน้าช่วยกันก่อร่างสร้างตัวจนเติบใหญ่ในแวดวงอะไหล่รถยนต์ ทั้ง 2 สามีภรรยาได้ต่อสู้ชีวิตด้วยความมานะอุตสาหะ จนกระทั่งธุรกิจมั่นคงรํ่ารวยขึ้นมาตามระดับ และเป็นรากฐานนำมาซึ่งการต่อ ยอดธุรกิจในปัจจุบัน แต่แล้วคุณพัฒนาสามีสุดที่รัก ก็มีอันต้องเสียชีวิตจากไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
ท่ามกลางความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง แต่ทว่า ดร.สมพร ได้ยึดหลักปรัชญาจีนโบราณที่สอนไว้ว่า “จงแปรความเศร้าโศกให้เป็นพลัง” พร้อมกับการตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ในตอนนั้น ด้วยความแข็งแกร่งมั่นคงดังหินผาไว้ในใจอยู่ 3 ประการ คือ...
1.จะไม่ขอแต่งงานใหม่ 2.จะมุ่งมั่นทำงานสานต่อธุรกิจที่สามีสร้างไว้ให้มั่นคง และ 3. จะพยายามเลี้ยงลูกทุกคนให้เป็นคนดีมีคุณภาพ และช่วยเหลือสังคมสืบไป
บัดนี้...สิ่งที่ ดร.สมพร ได้ตั้งปณิธานเอาไว้อย่างแน่วแน่นั้น ก็ได้บรรลุผลเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน ด้วยการให้ความเมตตา ช่วยเหลือเผื่อแผ่เพื่อนฝูง, ลูกน้องผู้ร่ามงานทั้งไทย-จีน-ฝรั่ง อยู่ดีมีสุขทุกคน โดยผู้เขียนได้ ยินจากลูกน้องหลายคน อาทิ “น้องโย” พยาบาลสาวประจำตัวเล่าให้ฟังว่า ลูกน้องเก่าบางคนอย่าง “พี่กบ” ได้อยู่ทำงานด้วยความรักในนํ้าใจ “นาย” ถึง 42 ปีแล้ว เป็นต้น
เท่าที่ได้สดับตรับฟังมา นอกจากการใช้ระบบ “อินเซนทีฟ” ในการให้รางวัล-ลงโทษกับลูกน้องอย่างเฉียบขาดชอบธรรมแล้ว...ยังทราบเพิ่มเติมมาว่า ท่านประธาน สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคนมีเมตตาธรรมและมีนํ้าใจเป็นเลิศ ดั่งสายฝนอันฉํ่าใจ ทั้งต่อลูกน้อง เพื่อนมิตร และญาติพี่น้อง ด้วยการดูแล ช่วยเหลือจุนเจือให้มีงานทำ โดยทั่วหน้า เหนือสิ่งอื่นใด คือมีความตั้งใจ คืนกลับสู่สังคมและแผ่นดินเกิด ด้วยการทำสาธารณกุศล เป็นประจำ...น่าชื่นชมครับ
การเป็น “หญิงไทย” คนหนึ่ง ที่มี “Courage” กล้าคิดกล้าทำ มุ่งมั่นต่อยอดธุรกิจอันไพศาลจนสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ด้วยการตั้ง “Aim” ที่ยึดมั่นในหลักการ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง จนสามารถสืบสานต่อยอดธุรกิจของสามีผู้ล่วงลับจนบรรลุผล ตามที่ตั้งปณิธานเอาไว้แต่ต้น พร้อมได้รับคำชื่นชมจากวงการธุรกิจยานยนต์ ทั้งใน-นอกประเทศ ตลอดจนความรักนับถือจากวงศาคณาญาติ... ย่อมเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก มิใช่หรือ?
ผู้เขียน แม้จะดำรงชีวิตอยู่ในสหรัฐฯ มายาวนาน แต่ก็ยังไม่เคยมองเห็นความเก่งกาจโดดเด่นของหญิงชาวฝรั่งคนใด ที่ทัดเทียม “หญิงไทย” ท่านนี้เลย
ดังนั้น จึงต้องยกให้ ดร. สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น... “หญิงแกร่ง” ทางเศรษฐกิจแห่งประเทศ ไทย ที่กำลังก้าวสู่อินเตอร์
...คงไม่เกินความเป็นจริง กระมัง?
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,313 วันที่ 12 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560