ใครว่าไทยไม่มี‘หญิงแกร่ง’ทางเศรษฐกิจ (จบ)

12 พ.ย. 2560 | 23:05 น.
TP07-3313-3A เยี่ยมชมโรงงานแห่ง 2... และชีวิตดั่งนิยายของ ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ

หลังจากการดูงาน เยี่ยมชมโรงงานและอาณาจักรธุรกิจ ไทยซัมมิท ในรัฐมิชิแกน แห่งแรกโดยทั่วถึงแล้ว ผู้เขียนได้มีโอกาสนั่งสนทนาถึงวิวัฒนาการยุคใหม่แห่งโลกาภิวัตน์ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยียุคไฮเทค ตลอดจนแนวโน้มความเป็นไปทางเศรษฐกิจ-การเงิน ของนานาอารยประเทศแล้ว ต้องยอมรับว่า ท่านประธานสมพรเป็นหญิงไทยคนหนึ่งที่มีวิสัยทัศน์กว้าง ไกล ซึ่งมองประเด็นปัญหา และวิธีแก้ปัญหาได้อย่างแหลมคม อีกทั้งเป็นคน “คิดเก่ง-ทำเก่ง” ไม่แพ้หญิงชาติใดๆ ในโลก!

วันต่อมา ดร.สมพร ก็ได้พาคณะดูงาน ด้วยรถตู้ “FORD” รุ่นหรู นั่งสบาย เดินทางไปดูโรงงานแห่งที่ 2 ที่เมืองบาดส์ทาวน์ รัฐเคนตักกี ซึ่งเป็นโรงงานที่กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จแล้วภายใต้การนำของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บุตรชายคนโต โครงสร้างตัวโรงงานสร้างด้วยวัตถุทันสมัยใหญ่โต แข็งแรงมาก เครื่องปั๊มบางตัวเริ่มผลิตงานได้บ้างแล้ว รอติดตั้งเพิ่มอีก 2 ตัวก็สมบูรณ์ ตามกำหนดการ

ในวันนั้นคณะของเราไปถึง ท่ามกลางอากาศสดใส เย็นสบาย ไม่หนาวมาก ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงและผู้ปฏิบัติงานทั้งชาวอเมริกาและญี่ปุ่นมายืนแถวต้อนรับ จากนั้นก็พาไปยังห้องประชุม พร้อมกับการขึ้นจอคอมพิวเตอร์แสดงการต้อนรับท่าน President Dr.Somporn Juangroongruangkit ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง โดยมี
Mr.J.Richard Heaton ผู้ว่า City of Bardstown, รัฐ Kentucky ได้ให้เกียรติมาร่วมให้การต้อนรับและร่วมเดินเยี่ยมชมด้วย

คณะเจ้าหน้าที่โรงงานได้กล่าวรายงานถึงระบบการบริหารก่อสร้าง และการปฏิบัติงานให้ท่านประธานสมพรได้ทราบโดยครบถ้วนแล้ว จึงพาคณะดูงานเข้าเยี่ยมชมเครื่องจักรภายในโรงงานต่อจนถึงเวลาอันควร ดร.วรวุฒิ อิทธิภักดีพงศ์ จึงพาคณะของเราไปดู สิ่งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคนไทย...นั่น คือ “Thai Summit Road” หรือ “ถนนไทยซัมมิท” นั่นเอง!

TP07-3313-2A ดร.วรวุฒิ หรือ Woody เล่าให้ฟังว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติให้ตั้งชื่อ ไทยซัมมิท เป็นชื่อถนนในดินแดนสหรัฐฯ นั้นถือ ว่าเป็นเกียรติและให้ความสำคัญอย่างมากต่อโรงงาน Thai Summit เพราะเขาถือว่าคนต่างชาติที่มีศักยภาพเท่านั้น ที่สามารถมา สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่น ... ถึงกับเจ้าสัวประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานแห่ง TOA ยกนิ้วให้ พร้อมอุทานว่า สุดยอดจริงๆ

เมื่อพวกเราคณะดูงานเสร็จภารกิจเป็นทางการ หลังจากการเยี่ยมชมโรงงานที่มีเจ้าของเป็นไทยแท้เป็นที่พอใจแล้ว สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษตามมาก็น่าจะเป็นชีวประวัติของท่านประธาน ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่นเอง โดยอยากรู้ความจริงว่า...รวยมาจากไหน? รวยอย่างไร? พื้นฐานมา จากครอบครัวมั่งคั่งหรืออย่างไร?

ชีวประวัติดุจดั่งนวนิยายของ ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ “หญิงแกร่ง” ผู้ถือครองธุรกิจสินทรัพย์นับเป็นหมื่นๆ เป็นแสนๆ ล้านบาทในปัจจุบันท่านนี้...เป็นบุตรีของคนรวยท่านใด? จึงสามารถมีทุนก่อร่างสร้างตัว “รวย” ได้ถึงขนาดนี้?

ปรากฏว่าเจ้าตัวได้เล่าให้ฟังอย่างไม่อายแต่น่าขบขัน และแฝงด้วยปรัชญาชีวิต ว่าความจริงแท้แล้วเกิดมาจากครอบครัวเชื้อสายจีนที่ยากจน ตอนเป็นสาวรุ่นนั้น ชีวิตลำบากมาก ต้องบากบั่นใฝ่หาความรู้ด้วยการไปเรียนต่อด้วยตนเองในรัฐที่กันดารที่สุดของสหรัฐฯ เพราะครอบครัวพ่อแม่ไม่สามารถส่งเสียให้เรียนได้สะดวก ถึงกับต้องไปสมัครเป็นเด็กปั๊มขายนํ้ามันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง และที่น่าขำ เริ่มทำงานวันแรกเจอเจ้าของรถที่มาเติมนํ้ามันบอกให้เด็กปั๊มสาวหน้าตาเซ่อๆ คนนี้ ช่วยวัดนํ้ามันเครื่องให้ที แต่ด้วยเหตุที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรถยนต์มาก่อน จึงงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ที่วัดนํ้ามันเครื่องอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ จนเจ้าของรถขำไม่ออก แต่ด้วยความใจดีก็สอนเด็กปั๊มสาวหน้าใหม่คนนี้ว่า หนูต้องหาฝาเปิดก่อนเช็กแล้วจึงวัดได้ แต่เด็กปั๊มใหม่คนนี้ก็หาไม่เจอเสียที ทำให้นึกขำและสงสารตัวเองจนบัดนี้...(ฮา)

ครั้น... เรียนอยู่อเมริกาได้ประมาณ 3 ปี กามเทพก็นำศรรักมาปักใจ เกิดรักใคร่กับหนุ่มที่ชื่อ “พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ”
ซึ่งขณะนั้น เป็นแค่เจ้าของร้านทำเบาะรถยนต์เล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่าเขาเป็นคนขยันขันแข็งทำงานหาเงินสร้างตัวอย่างอดทนไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค เมื่อได้แต่งงานแล้วต่างมุ่งหน้าช่วยกันก่อร่างสร้างตัวจนเติบใหญ่ในแวดวงอะไหล่รถยนต์ ทั้ง 2 สามีภรรยาได้ต่อสู้ชีวิตด้วยความมานะอุตสาหะ จนกระทั่งธุรกิจมั่นคงรํ่ารวยขึ้นมาตามระดับ และเป็นรากฐานนำมาซึ่งการต่อ ยอดธุรกิจในปัจจุบัน แต่แล้วคุณพัฒนาสามีสุดที่รัก ก็มีอันต้องเสียชีวิตจากไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

TP07-3313-1A ท่ามกลางความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง แต่ทว่า ดร.สมพร ได้ยึดหลักปรัชญาจีนโบราณที่สอนไว้ว่า “จงแปรความเศร้าโศกให้เป็นพลัง” พร้อมกับการตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ในตอนนั้น ด้วยความแข็งแกร่งมั่นคงดังหินผาไว้ในใจอยู่ 3 ประการ คือ...

1.จะไม่ขอแต่งงานใหม่ 2.จะมุ่งมั่นทำงานสานต่อธุรกิจที่สามีสร้างไว้ให้มั่นคง และ 3. จะพยายามเลี้ยงลูกทุกคนให้เป็นคนดีมีคุณภาพ และช่วยเหลือสังคมสืบไป

บัดนี้...สิ่งที่ ดร.สมพร ได้ตั้งปณิธานเอาไว้อย่างแน่วแน่นั้น ก็ได้บรรลุผลเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน ด้วยการให้ความเมตตา ช่วยเหลือเผื่อแผ่เพื่อนฝูง, ลูกน้องผู้ร่ามงานทั้งไทย-จีน-ฝรั่ง อยู่ดีมีสุขทุกคน โดยผู้เขียนได้ ยินจากลูกน้องหลายคน อาทิ “น้องโย” พยาบาลสาวประจำตัวเล่าให้ฟังว่า ลูกน้องเก่าบางคนอย่าง “พี่กบ” ได้อยู่ทำงานด้วยความรักในนํ้าใจ “นาย” ถึง 42 ปีแล้ว เป็นต้น

เท่าที่ได้สดับตรับฟังมา นอกจากการใช้ระบบ “อินเซนทีฟ” ในการให้รางวัล-ลงโทษกับลูกน้องอย่างเฉียบขาดชอบธรรมแล้ว...ยังทราบเพิ่มเติมมาว่า ท่านประธาน สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคนมีเมตตาธรรมและมีนํ้าใจเป็นเลิศ ดั่งสายฝนอันฉํ่าใจ ทั้งต่อลูกน้อง เพื่อนมิตร และญาติพี่น้อง ด้วยการดูแล ช่วยเหลือจุนเจือให้มีงานทำ โดยทั่วหน้า เหนือสิ่งอื่นใด คือมีความตั้งใจ คืนกลับสู่สังคมและแผ่นดินเกิด ด้วยการทำสาธารณกุศล เป็นประจำ...น่าชื่นชมครับ

บาร์ไลน์ฐาน การเป็น “หญิงไทย” คนหนึ่ง ที่มี “Courage” กล้าคิดกล้าทำ มุ่งมั่นต่อยอดธุรกิจอันไพศาลจนสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ด้วยการตั้ง “Aim” ที่ยึดมั่นในหลักการ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง จนสามารถสืบสานต่อยอดธุรกิจของสามีผู้ล่วงลับจนบรรลุผล ตามที่ตั้งปณิธานเอาไว้แต่ต้น พร้อมได้รับคำชื่นชมจากวงการธุรกิจยานยนต์ ทั้งใน-นอกประเทศ ตลอดจนความรักนับถือจากวงศาคณาญาติ... ย่อมเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก มิใช่หรือ?

ผู้เขียน แม้จะดำรงชีวิตอยู่ในสหรัฐฯ มายาวนาน แต่ก็ยังไม่เคยมองเห็นความเก่งกาจโดดเด่นของหญิงชาวฝรั่งคนใด ที่ทัดเทียม “หญิงไทย” ท่านนี้เลย

ดังนั้น จึงต้องยกให้ ดร. สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น... “หญิงแกร่ง” ทางเศรษฐกิจแห่งประเทศ ไทย ที่กำลังก้าวสู่อินเตอร์

...คงไม่เกินความเป็นจริง กระมัง?

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,313 วันที่ 12 - 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว