‘จาก EasternSeaboard สู่ EEC’
โครงการ Eastern Economic Corridor มีจุดเริ่มต้นเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ในช่วงรัฐบาลของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่รัฐบาลได้กำหนดให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันขับเคลื่อนการลงทุนครั้งใหญ่ ในบริเวณเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard โดยจัดให้เป็น "วาระแห่งชาติ" ที่ทุกคนจะมาร่วมกันพัฒนา สร้างท่าเรือพาณิชย์น้ำลึกแห่งแรกของประเทศบริเวณแหลมฉบัง และใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมสำคัญต่างๆ พลิกภาคตะวันออกของไทยให้กลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ จนได้ชื่อว่าเป็นยุค " โชติช่วงชัชวาล "และวันนี้กับภาคต่อของ " ยุคโชติช่วงชัชชวาล "สู่ยุคของEastern Economic Corridor(EEC ) อีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนอีกครั้ง
รัฐบาลฯพณฯ พล.อ. ประยุทธ์ จันทรโอชา ต้องการจะสร้างโอกาสครั้งใหม่ เพื่อการยกระดับการพัฒนาด้านตะวันออกอีกครั้ง เพื่อให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจรอบๆตัวมีและการเกิดขึ้นของ AEC ที่มาพร้อมฐานการผลิต และ ประชากรกว่า 600 ล้านคนประกอบกับความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่งที่ดีขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการเดินทางเชื่อมโยงไทยกับนานาประเทศทั้ง จีน , สปป. ลาว กัมพูชา , เมียนมา ,เวียดนาม
ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงต้องเร่งลงทุนใหญ่รอบใหม่เพื่อสร้างอนาคตและเสริมศักยภาพทางการลงทุน โดยมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกให้กลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของเอเชีย โดยโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) มีเป้าหมายหลักในการเติมเต็มภาพรวมการส่งเสริมการลงทุน อันจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และทำให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตได้ในระยะยาวได้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560