สงครามไซเบอร์'UBER-รัฐ'ตาต่อตาฟันต่อฟัน!

10 มี.ค. 2560 | 13:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มี.ค. 2560 | 12:22 น.
TP5-3242-b รัฐเปิดศึก...เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาคงได้รับรู้ถึงแรงระเบิดสงครามไซเบอร์ระหว่าง “เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก”กับ “UBER”ที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยแผนการเปิดแอพล่อ “เรียกให้มารับ” เมื่อคนขับถึง ก็จับปรับ 2,000 บาททันทีในฐานความผิด“ใช้รถยนต์ไม่ตรงกับลักษณะที่จดทะเบียน”

ชนวนเหตุนี้เองทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกรมการขนส่งทางบกฝ่ายที่เชียร์มองว่าเป็นการ “ซิกแซ็ก" ของUBERที่ใช้รถผิดประเภทและผิดกฎหมายจริง ส่วนสาวก UBER มองว่า ถ้าไม่อยากให้ผิดกฎหมายภาครัฐควรเข้ามาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง ถ้าแท็กซี่- รถแดงเชียงใหม่บริการดีจริง? “UBER”จะเข้ามาแทนที่และได้รับความนิยมได้อย่างไร?

สงครามร้อนขึ้นอีก…เมื่อกลุ่มรถแดงและแท็กซี่เชียงใหม่ตัดสินใจจัดตั้งทีมเฉพาะกิจไล่ล่า “UBER”ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ด้วยเหตุนี้เองโลกออนไลน์จึงนำเป็นจุดตั้งข้อสงสัยว่า เบื้องหลังในการลอบเรียก“UBER”ให้มารับและจับปรับซึ่งหน้านั้น? คงเป็นฝีมือของ “แท็กซี่และรถแดงเชียงใหม่”จึงทำให้ชาวเน็ตแห่ขุดคุ้ยเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ โดยที่เหล่า “UBER”ไม่ต้องออกแรงโต้ตอบผ่านสื่อโซเชียลเลยแต่“UBER”ใช้วิธีล้ำกว่านั้น ….

“UBER”ไม่รอช้า เปิดฉากรบทันที ด้วยระบบ “Greyball“อันเป็นเครื่องมือที่สื่อเป็นนัยว่า พร้อมลุกขึ้นสู้ ซึ่งระบบนี้ออกแนวกวนประสาทเจ้าหน้าที่ โดยแอบติดตั้ง “Geofence“ในละแวกสถานีตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบบจะสังเกตผู้ใช้ที่เปิด-ปิดแอพบ่อย ๆ อย่างน่าสงสัย และกาหัวไว้ว่าอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่

ถ้าพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงที่แฝงตัวมาเป็นผู้ใช้บริการระบบจะโชว์รถปลอมทันที หรือไม่ก็โชว์ว่าไม่มี“UBER” ให้บริการและอีกหนึ่งมาตรการต่อกรกับโทรศัพท์ที่ใช้แล้วทิ้งของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมักจะซื้อโทรศัพท์ราคาถูกเป็นจำนวนมาก เพื่อนำมาล่อดักจับ“UBER”ระบบจะบล็อกโทรศัพท์รุ่นนั้นทันที ไม่ให้สามารถนำมาใช้กับระบบ“UBER”ได้

การที่“UBER”ใช้เทคโนโลยีเป็นอาวุธในการสู้ศึกครั้งนี้เหมือนบอกว่า “ถ้าล่อซื้อได้ ก็มีวิธีหนีได้”สงครามนี้...คงจบยากแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างใช้วิธี “ตาต่อตาฟันต่อฟัน”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,242 วันที่ 9 - 11 มีนาคม พ.ศ. 2560