เปิดแนวคิด ผู้นำ "โบทานิก้า"ดัน Word of Mouth อัพพลังซื้อต่างชาติ

01 ต.ค. 2566 | 06:03 น.

เปิดแนวคิด ผู้นำ "โบทานิก้า" สร้างความเชื่อมั่น ดัน "Word of Mouth" อัพพลังซื้อชาวต่างชาติ หัวเมืองท่องเที่ยว "ภูเก็ต"

 

บนเส้นทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ที่เดินอยู่บนถนนเส้นนี้มาราว 20 ปี พร้อมความสำเร็จของการเป็นดีเวลลอปเปอร์และแลนด์ลอร์ดแถวหน้าของภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวที่กำลังบูมหนักโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

“อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ” ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด เล่าว่า โบทานิก้าเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริทรัพย์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ด้วยโครงการเล็กๆ ประมาณ 4 -5 หลัง แต่วันนี้เติบโตขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างชาติมากถึง 95% เนื่องจากถือเป็นแบรนด์คุณภาพอันดับหนึ่งในวงการตลาดบ้านพักตากอากาศพูลวิลล่า ในจังหวัดภูเก็ต ที่ลูกค้าบอกต่อ (word of mouth) ส่งผลให้ปิดการขายรวมทุกโครงการได้รวดเร็ว โดยปี 2565 สามารถปิดการขายได้กว่า 5,500 ล้านบาท

อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ

“หากจะถามถึงความสำเร็จของโบทานิก้าฯ เราไม่มีบิซิเนสโมเดลที่ตายตัว แต่เป็นการพัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญกับมุมมองจากประสบการณ์ เมื่อเห็นทำเลแล้วคิด ออกแบบ สร้างวิวของตัวเองขึ้นมา เพราะผมเองก็เป็นสถาปนิก เราเรียนรู้จากประสบการณ์ ซึ่งจริงๆ ก็เจ็บมาเยอะ”

ซีอีโอ โบทานิก้าฯ เล่าพร้อมเสียงหัวเราะ เขาเน้นย้ำว่า สิ่งที่ทำให้ลูกค้าพึ่งพอใจในโครงการของโบทานิก้าฯ คือ คุณภาพ และดีไซน์ที่แตกต่าง การสร้างและพัฒนาวิว ให้เหมาะกับทะเลที่ตั้ง ตรงนี้ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและเกิดการบอกต่อ

ที่ดินทำเลทองเชิงเขาวิวทะเล  ที่ตั้งโครงการ บ้านลักชัวรี พูลวิลล่า โบทานิก้า ในอาณาจักร มอนท์เอซัว ภูเก็ต

โครงการอสังหาริมทรัพย์ของโบทานิก้าฯ ส่วนใหญ่อยู่ที่ย่านหาดบางเทา จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี ในระยะหลังๆ เริ่มขยายตลาด ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มมอนท์เอซัวร์ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) ยูโทเปีย คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่

 ในมุมมองของ “อรรถสิทธิ์” เขาบอกว่า ตอนนี้โอกาสทางการตลาดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มต่างชาติ โดยเฉพาะที่ภูเก็ตยังมีอยู่มาก อย่างรัสเซียที่ถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหญ่ของโบทานิก้าฯ มีมากกว่า 50% เนื่องจากภัยสงคราม และการถูกแบนจากยุโรป นอกจากนี้ยังมีดูไบ ที่ให้ความสนใจตลาดภูเก็ตเพิ่มขึ้นมาก ส่วนจีนก็มีความสนใจ แต่ยังรอนโยบายจากภาครัฐ ที่จะคลายล็อคกฎหมายการโอนเงินข้ามชาติได้ในจำนวนที่มากขึ้น ตลาดจีนจึงจะเริ่มฟื้น

 ที่สำคัญความน่าสนใจของการทำตลาดต่างประเทศปัจจุบัน ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่ รับได้กับการซื้อกรรมสิทธิแบบ Lease Hold หรือ การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว โดยไม่ได้กรรมสิทธิ์ขาด เมื่อครบกำหนดตามสัญญาก็ต้องคืนสิทธิ์ให้เจ้าของ หรือต่อสัญญาออกไปอีก ซึ่งต่างชาติให้ความสนใจและไม่ติดขัดเรื่องนี้ แต่ต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในไทยถูกต้อง มีการจดทะเบียนถูกต้อง ก็มีสิทธิในการซื้อแบบ Freehold หรือการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบขายขาด โดยผู้ซื้อจะได้กรรมสิทธิ์ครอบครองเต็มตัว

   หากประเมินโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มอสังริมทรัพย์ราคาระดับไฮเอนด์ในภูเก็ต ที่มีอยู่ประมาณ 10-15% ตอนนี้ถือว่าโอกาสยังดีมาก และการขายแบบ Lease Hold ก็เป็นรูปแบบที่ดี เพราะอย่างไรเสีย เราก็ยังอยากเก็บที่ดินไว้เพื่อส่งต่อลูกหลานของเรา

 

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,926 วันที่ 28 - 30 กันยายน พ.ศ. 2566