น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหาร สำหรับนโยบายที่รัฐบาลจะดำเนินการในปี 2568 ทั้งนี้ รัฐบาลกำหนดแนวทางการทลายทุนผูกขาดการส่งออกข้าว 3 ขั้นตอนประกอบด้วย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาผูกขาดทุกชนิด การผูกขาดเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ประชาชน และทำให้พี่น้องประชาชนยากจนลง รัฐบาลจะเร่งดำเนินการปลดล็อกการผูกขาด โดยเฉพาะเรื่องข้าวที่ตั้งเป้าให้เกษตรกรทุกคน และผู้ค้าข้าว SMEs สามารถส่งออกข้าวไปทั่วโลกได้เอง
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กฎหมายกำหนดให้มีที่สต๊อกข้าว 500 ตัน เพื่อป้องกันหากเกิดการขาดแคลนการส่งออกข้าวเท่านั้น เป็นกฎหมายที่มีการประกาศใช้มาตั้งปี 2489 ซึ่งการลดจำนวนสต๊อกข้าวจาก 500 ตัน เหลือเพียง 100 ตัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทางผู้ส่งออกก็ไม่ได้ขัดข้อง อีกทั้งยังส่งเสริมให้ SME สามารถส่งออกได้มากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดีประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรจะทำ ทั้งนี้ การลดขั้นตอนการต่อใบอนุญาตส่งออกข้าวที่จะลดจาก 50,000 บาท เหลือ 20,000 บาท เพราะทางสมาคมเคยเรียกร้องกับทางกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายค่อนข้างหนัก
“การกำหนดสต๊อกข้าวเพื่อป้องกันหากเกิดการขาดแคลนข้าว อาจจะไม่มีความจำเป็นในการทำเพราะปัจจุบันผลผลิตข้าวมีปริมาณเพิ่มขึ้นจึงไม่ต้องกังวล ซึ่งปัจจุบันผลผลิตมีปริมาณ 20 ตันต่อปี ซึ่งมีการส่งออกประมาณ 10 ล้านตัน บริโภคในประเทศอีก 10 ล้านตัน”
กรณีเรื่องของคำพูดว่าที่”สลายการผูกขาด” ซึ่งในความเป็นจริงธุรกิจข้าวไม่ได้มีการผูกขาด มันเป็นระบบการค้าเสรีที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เพราะว่าผู้ส่งออกเฉพาะสมาชิกในสมาชิกสมาคมฯ ประมาณ 170 ราย และยังผู้ส่งออกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอีก 40-50 บริษัท ซึ่งก็ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าต้องเป็นสมาชิกก่อนจึงจะสามารถส่งออกได้ ก็อยากอธิบายให้สังคมได้รับฟัง