รมช.กต.นำนักธุรกิจไทยบุก "คาซัคสถาน" ขยายโอกาสการค้า-การลงทุน

22 ก.พ. 2567 | 19:38 น.

กต. นำคณะนักธุรกิจไทยเดินทางเยือนคาซัคสถาน 21-25 ก.พ. แสวงหาโอกาสบูมการค้า-การลงทุนร่วมกัน ในโอกาสนี้ได้มีการลงนามใน MOU ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับ QazTrade หน่วยงานเทียบเท่าสภาหอการค้าคาซัคสถาน เพื่อร่วมขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ 

 

นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะนักธุรกิจไทย เดินทางเยือน ประเทศคาซัคสถาน ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ศกนี้ เพื่อประชุมร่วมกับรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศคาซัคสถาน ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการลงทุนระหว่างประเทศ โดยภายหลังหารือ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับ QazTrade ซึ่งเทียบเท่าสภาหอการค้าคาซัคสถาน อันจะเป็นส่วนสำคัญในการขยายและเพิ่มพูนกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศด้วย 

ทั้งนี้ คาซัคสถาน เป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในแถบเอเชียกลางและเป็นตลาดใหม่ มีประชากร 20 ล้านคน มีรายได้ต่อหัวสูงมาก มีทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมันสำรอง และแร่ธาตุมากมาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับประเทศในแถบนี้ และล่าสุด มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ได้เห็นชอบขยายเวลามาตรการ ฟรีวีซ่า (ยกเว้นการตรวจลงตรา) ให้กับคาซัคสถานต่อไปอีก 6 เดือน ( 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2567)

โดยในปีที่ผ่านมา (2566) มียอดนักท่องเที่ยวคาซัคสถานเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้ว 172,282 คน และปีนี้ ตั้งเป้าให้มีนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถานเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน มาเยือนไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถพำนักได้ถึง 30 วัน

สถิติชี้ว่า นักท่องเที่ยวคาซัคสถาน มีความสนใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ในช่วงที่ประเทศคาซัคสถานมีอุณหภูมิติดลบถึง 30 องศาเซลเซียส ซึ่งรัฐบาลยังมีแนวคิดจะขยายตลาดไปในประเทศอื่นๆ ในแถบนี้ด้วย อาทิ อุซเบกิสถาน

นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.กต. นำคณะนักธุรกิจไทย เยือนคาซัคสถาน  21-25 กุมภาพันธ์

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า การเยือนคาซัคสถานครั้งนี้ รมช.และคณะ มีภารกิจต่างๆ ดังนี้

  • พบหารือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถาน ด้านการลงทุน เพื่อรับทราบตัวเลขการลงทุน สาขาอุตสาหกรรมสำคัญ นโยบายและมาตรการดึงดูดนักลงทุน และการขอรับการสนับสนุนการเจรจา Thailand - Eurasian Economic Union (EAEU) FTA
  • พบหารือผู้แทนกระทรวงเกษตรคาซัคสถาน เพื่อรับทราบสินค้าเกษตรและอาหารหลัก ความเชี่ยวชาญ ห่วงโซ่คุณค่าและอุปทาน และหาแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการเกษตรและอาหาร นอกจากนี้ คณะฯ จะพบหารือกับผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาซัคสถาน ระหว่างการเยือนครั้งนี้ด้วย
  • พบหารือรัฐบาลท้องถิ่นแห่งเมืองอัลมาตี ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของคาซัคสถาน
  • กล่าวเปิดงาน “Amazing Thailand : A Glimpse of the Land of Smiles”

การลงนาม MOU ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับ QazTrade ซึ่งเทียบเท่าสภาหอการค้าคาซัคสถาน

ในช่วงค่ำวันที่ 22 ก.พ.2567 ที่กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน นายจักรพงษ์ยังได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Networking Dinner) เพื่อส่งเสริมการสร้างเครือข่ายระหว่างภาคธุรกิจของไทยและคาซัคสถานให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยมีผู้บริหารและผู้แทนองค์กรภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องของฝ่ายคาซัคสถาน และคณะนักธุรกิจไทยเข้าร่วม ซึ่งผู้แทนภาคเอกชนไทยที่ร่วมคณะเดินทางไปกับรมช.กต.ครั้งนี้ มาจากหลากหลายภาคส่วน ประกอบด้วย

  • อาหารและเครื่องดื่ม
  • ธุรกิจค้าปลีก
  • การแพทย์และบริการสุขภาพ
  • การศึกษา
  • รวมถึงผู้แทนกลุ่มพันธมิตร คาซัค-ไทย

นายจักรพงษ์ ร่วมการประชุมเต็มคณะกับนางสาว Nazira Nurbayeva รมช.กต.คาซัคสถาน (รับผิดชอบการลงทุนระหว่างประเทศ)

“การเดินทางในครั้งนี้ ได้พาภาคธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลมาด้วย เพื่อเชิญชวนให้มาใช้บริการด้านการแพทย์และ Wellness ที่ประเทศไทยมีความชำนาญ นอกจากนี้ คาซัคสถานยังมีความชื่นชอบผลไม้ไทย ขณะเดียวกันก็มีแร่ธาตุ เหมืองแร่ และน้ำมันที่พร้อมจะเชิญชวนให้ไทยมาลงทุน” นายจักรพงษ์กล่าว และยังระบุว่า ฝ่ายคาซัคสถานแสดงความต้องการ อยากส่งออกเนื้อสัตว์มายังประเทศไทย ซึ่งไทยจะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป

รมช.กต.ยังกล่าวด้วยว่า ในการหารือเต็มคณะวานนี้ (22 ก.พ.) ทั้งสองฝ่ายได้เห็นถึงความตั้งใจและอยากลงทุนระหว่างกัน เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการจะเปิดตลาดใหม่ เพื่อดึงการลงทุนให้ประเทศไทย ขณะเดียวกัน รัฐบาลเตรียมให้ทำการบินเพิ่ม จากคาซัคสถานบินตรงไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และภูเก็ต 40 เที่ยวต่อสัปดาห์ ซึ่ง บมจ.การบินไทย (THAI) ให้ความสนใจอยากเปิดให้บริการด้วย