กมธ.เกษตรฯ กระทุ้ง “เงินช่วยเหลือชาวนา-จำนำยุ้งฉาง” ให้ทัน ปลาย ก.ย.

09 ก.พ. 2567 | 09:07 น.

โฆษกฯ คณะ กมธ.เกษตรฯ กระทุ้ง “เงินช่วยเหลือชาวนา-จำนำยุ้งฉาง” ให้ทัน ปลาย ก.ย. พร้อมเสนอทางออก “กรมการข้าว-ธ.ก.ส.” เพิ่มขีดความสามารถ สร้างความยั่งยืน ชาวนรามีรายได้มั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา  (9 ก.พ.67 ) นายศิรสิทธิ์ สงนุ้ย โฆษกคณะกมธ.การเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวผลการประชุมคณะ กมธ.ว่า วันนี้คณะ กมธ. ได้พิจารณาเรื่อง "แนวทางการส่งเสริม สนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว" มีผู้แทนกรมการข้าว และผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร์ (ธ.ก.ส) เข้าร่วมประชุม โดยมีข้อเสนอแนะของคณะ กมธ.ต่อหน่วยงานต่าง ๆ  ดังนี้

1.ขอให้หน่วยงานภาครัฐ ผลักดันโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ทันในฤดูการถัดไปในช่วงปลายเดือนกันยายนให้สอดคล้องกับฤดูการผลิตข้าว

 กรมการข้าว

1. ควรเร่งดำเนินการศึกษาวิจัย พัฒนาและส่งเสริมพันธุ์ข้าวไทย การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการส่งเสริมการแปรรูป การจัดหาตลาดให้เกษตรกร ตลอดจนพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและอัตลักษณ์ข้าวในชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่ระดับเวทีโลก

2. ควรมีผลดำเนินงานตามโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้เกิดการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างแท้จริง

3. ควรนำร่องการพัฒนาการเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่ในพื้นที่ต้นแบบและขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม

4.ควรมีภารกิจหลักในการพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนให้มีศักยภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยให้ปราชญ์ชาวบ้านช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ ตลอดจนประสานกับสถาบันการศึกษาเพื่อทำงานร่วมกันมากกว่าการใช้งบประมาณในการจัดซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตร นอกจากนี้ ควรกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความช่วยเหลือศูนย์ข้าวชุมชนให้มีความชัดเจน

5.ควรมีการส่งเสริมสนับสนุนสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพเป็นกลไกหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนโครงการสำคัญของกรมการข้าว เนื่องจากศูนย์ข้าวชุมชนจำนวนหลายแห่งยังไม่มีศักยภาพในการดำเนินงาน

6.ควรส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูกและ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายข้าวด้วยตนเอง

 

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

1.  ควรพิจารณาโครงการให้สินเชื่อเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ไม่มีหลักทรัพย์ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรุ่นใหม่มีความพร้อมในการเข้าสู่อาชีพเกษตรกร

2. ควรติดตามการใช้งบประมาณโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพให้การใช้งบประมาณอย่างสูงสุด สนับสนุนให้ ธ.ก.ส. ช่วยเหลือเกษตรกรในการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อไม่ให้เกิดหนี้ค้างชำระ และเกษตรกรไม่มีภาระหนี้ที่หนักจนเกินไป