“ธรรมนัส”สั่งสแกน 77 จังหวัด เก็บค่าเช่า รร.-รีสอร์ท บนที่ ส.ป.ก.

08 ก.พ. 2567 | 02:01 น.

“ธรรมนัส” สั่งสแกน 77 จังหวัด พื้นที่จังหวัดไหน มีโรงแรม-รีสอร์ท รุกที่ ส.ป.ก.ให้เก็บค่าเช่า นำเงินเข้ากองทุนฯ “อุบลศักดิ์”หวั่นทำผิดกฎหมาย ยกเว้นก่อสร้างก่อน ปี 2537 ประกาศกำหนดเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน วงในชี้เลียน “พะเยา โมเดล” จับตาค่าเช่าสูงสุดไม่เกินไร่ละ 600 บาทต่อปี

ฐานเศรษฐกิจ” ยังเกาะติดความคืบหน้านโยบายของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ที่จะมีการเก็บค่าเช่าที่ดินจากผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ ที่ได้ใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ในการทำธุรกิจมาก่อนหน้านี้ แทนการรื้อถอน เพื่อเปลี่ยนเป็นรายได้เข้ากองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ

 

“ธรรมนัส”สั่งสแกน 77 จังหวัด เก็บค่าเช่า รร.-รีสอร์ท บนที่ ส.ป.ก.

 

นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย และในฐานะกรรมการ ในคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมการ (คปก.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ประชุม คปก. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ชูจังหวัดภูเก็ตเป็นต้นแบบเพื่อดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจากการตรวจสอบแปลงที่ดิน พบว่ามีโรงแรม 71 แห่ง คอนโดมิเนียม 5 แห่ง อพาร์ทเม้นท์ 7 แห่ง ทาวน์โฮม 1 แห่ง บ้านพัก/บ้านเช่า/บังกะโลตากอากาศ 13 แห่งซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ ส.ป.ก.จังหวัด ได้ทำการสแกนพื้นที่ทั้งหมดว่าบนพื้นที่ ส.ป.ก.มีที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างอะไรบ้าง เพื่อนำมาพิจารณาว่าควรจะทำอย่างไร โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเก็บค่าเช่า เพราะในกฎหมายไม่มีบัญญัติไว้ หวั่นจะทำผิดกฎหมายเสียเอง

 

ทั้งนี้ต้องนำมาพิจารณาก่อนว่า สิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้นก่อนหรือหลังประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินปี 2537 หากเกิดก่อนและโอนที่ดินมาให้ ส.ป.ก. เจ้าของเดิม ได้มีการอนุญาตหรือไม่ ส่วนกรณีมีสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้นหลังมีประกาศ ก็ต้องไปดูว่า คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด หรือ คปจ. จังหวัดนั้น ได้มีการอนุญาตหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาจากหลักฐานโดยจะต้องใช้กฎหมายเป็นบรรทัดฐาน

 

         “ธรรมนัส”สั่งสแกน 77 จังหวัด เก็บค่าเช่า รร.-รีสอร์ท บนที่ ส.ป.ก.                                                                                                              

อาทิ ประกาศคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมการ (คปก.) เรื่อง รายการกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนด ตามมาตรา 30 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 พ.ศ. 2563 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะต้องอยู่ใน 12 ข้อเท่านั้น เช่น ร้านขายรถแทร็กเตอร์ , เปิดสถานีบริการนํ้ามัน ทำที่พักอาศัย เป็นต้น

“ธรรมนัส”สั่งสแกน 77 จังหวัด เก็บค่าเช่า รร.-รีสอร์ท บนที่ ส.ป.ก.

 

สอดคล้องกับนายเด่นณรงค์ ธรรมา ผู้แทนเกษตรกรใน คปก. กล่าวว่า โครงการในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดพะเยา ตาม “พะเยา โมเดล”  หรือ “ธรรมนัสโมเดล” ในรัฐบาลที่แล้วที่ร้อยเอกธรรมนัส ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารายได้เข้ากองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  เมื่อทำสำเร็จ ก็เลยเป็นผลพวงขยายทั้งประเทศ ทั้งนี้ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอดูผลการประชุมครั้งต่อไปที่แต่ละจังหวัดจะรายงานอีกครั้งตามที่รัฐมนตรีได้สั่งการ

 

ขณะที่แหล่งข่าวจาก ส.ป.ก. กล่าวว่า ปัจจุบันที่ดินที่ ส.ป.ก.อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์เพื่อเกษตรกรรม คือ กรณีที่1ที่ดินที่เช่ามีเนื้อที่ไม่เกิน 15 ไร่ ให้คิดค่าเช่าในอัตราไร่ละ 100 บาทต่อปี  กรณีที่ 2 ที่ดินที่เช่ามีเนื้อที่เกินกว่า  15 ไร่ ที่นอกจากคิดค่าเช่าตามกรณีที่1 แล้ว ให้คิดค่าเช่าสำหรับที่ดินส่วนที่เกินในอัตราร้อยละ 0.1 ของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินของกรมธนารักษ์ (กราฟิกประกอบ) ในปีที่จัดทำสัญญาเช่า โดยให้คิดค่าเช่าขั้นต่ำไร่ละ 100 บาทต่อปีและค่าเช่าขั้นสูงไม่เกินไร่ละ 600 บาทต่อปี หรือกรณีคำนวณค่าเช่ามีเศษของบาทให้ปัดขึ้นเป็นหนึ่งบาท  ส่วนของ คปก.จะนำมาใช้อัตรานี้หรือไม่ต้องติดตาม

 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,964 วันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567