“มหาดไทย” เตรียมแผนรับมือภัยแล้ง ปี 67 สางปัญหาขาดน้ำพื้นที่เกษตร

04 ก.พ. 2567 | 08:10 น.

“มหาดไทย” ย้ำแผนรับมือภัยแล้งปี 67 สั่งกำชับจังหวัดให้ข้อมูลประชาชนเข้าใจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ สร้างความร่วมมือประหยัด พร้อมเฝ้าระวังปัญหาแย่งชิงน้ำพื้นที่เกษตร

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้เผยผลการคาดการณ์สภาพอากาศว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อน ปี 67 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ก.พ. เป็นต้นไป ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติ 1.0-1.5 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 35.4องศา) ปริมาณฝนรวมเฉลี่ยจะน้อยกว่าค่าปกติร้อยละ 30

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยต่อกรณีที่สภาพอากาศที่มีแนวโน้มจะแห้งแล้งกว่าปีที่ผ่านมา จึงได้กำชับผ่านกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้มีการบูรณาการการทำงานกับแต่ละจังหวัดเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งสำหรับปี 67
 

สำหรับการดำเนินการภายใต้แผนงานของ บกปภ.ช. ประกอบไปด้วยหลายส่วน แต่ รมว.มหาดไทยได้เน้นย้ำขอให้ทุกจังหวัดให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับประชาชน ภาคส่วนต่าง ๆ ให้มีความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนเอง ทราบถึงมาตรการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน จนเกิดความร่วมมือในการประหยัดน้ำ เชิญชวนประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการซ่อม บำรุง รักษาภาชนะเก็บน้ำ แหล่งกักเก็บน้ำให้พร้อมใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าปี 67 จะมีภาวะแล้งกว่าปีที่ผ่านมากระทรวงฯจึงมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และกำชับ ปภ. และทุกจังหวัดให้เตรียมการให้พร้อมและดำเนินการตามแผนงานของ บกปภ.ช. อย่างเคร่งครัด ทั้งการตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ เพื่อประเมินแนวโน้มการเกิดภัยแล้ง ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำแต่ละพื้นที่ และบางช่วงที่อาจเกิดพายุฤดูร้อน ให้ดำเนินการแจ้งข้อมูลประชาชนทราบผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้มีการป้องกัน ลดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรได้
 

นอกจากนี้พร้อมกับการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรและเครื่องมือของทั้งหน่วยงานพลเรือน ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ ให้พร้อมสำรหับช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว รมว.มหาดไทย ได้กำชับให้ฝ่ายปครองประสานกับฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่สอดส่อง และทำความเข้าใจกับประชาชนในกรณีที่ในพื้นที่เกิดการขาดแคลนน้ำโดยเฉพาะกรณีของพื้นที่เกษตร เฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำ หรือมีการนำประเด็นขาดแคลนน้ำไปสู่ความขัดแย้งอื่น ๆ ในสังคม ซึ่งการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรนั้น ให้ดำเนินการตามแนวทางการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง 2566/67 ของกระทรวงเกษตรโดยเคร่งครัด