ทำความรู้จัก "สับปะรดภูแล" หลัง “จีน” สั่งแบนผลไม้เป็นครั้งแรก

02 พ.ย. 2566 | 07:29 น.

ทำความรู้จัก “สับปะรดภูแล” ที่มาที่ไปใครเป็นผู้นำพันธ์เข้ามาปลูก หลังถูก “จีน” สั่งแบนสับปะรดภูแลเป็นครั้งแรก สับปะรดปลูกในประเทศไทยกี่สายพันธ์คลิกอ่านรายละเอียดทั้งหมดด่วน

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดภูแล เมื่อ นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี  นายกสมาคมผู้ส่งออกผลไม้ไทย ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้สับปะรดภูแล ที่ตัดแต่งส่งออกไม่ได้  ขณะนี้ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แบนสับปะรดภูแล ซึ่งทางสมาคมฯ กำลังเช็คกันอยู่ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร 

ล่าสุดมีรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ว่ า สับปะรดภูแล ที่เป็นผลไม้สด ยังสามารถส่งออกไปตลาดจีนได้ปกติ ยกเว้นกรณี สับปะรดภูแลที่ตัดแต่ง เนื่องจากจีนพบว่ามีสารเพิ่มความหวาน หรือ สารเคมีอื่นปนเปื้อน จึงส่งผลให้มีการระงับนำเข้า สำหรับสับปะรดภูแลที่ปอกเปลือกหรือตัดแต่งแล้ว

สับปะรด มีด้วยกัน 14  สายพันธ์ที่ปลูกในประเทศไทย  มีดังนี้

  • พันธุ์ปัตตาเวีย
  • พันธุ์อินทรชิตแดง
  • พันธุ์อินทรชิตขาว
  • พันธุ์ภูเก็ต
  • พันธุ์นางแล
  • สับปะรดศรีราชา
  • สับปะรดตราดสีทอง
  • สับปะรดห้วยมุ่น
  • สับปะรดภูแล
  • สับปะรดภูเก็ต
  • พันธุ์เพชรบุรี 1
  • พันธุ์เพชรบุรี 2
  • พันธุ์ภูชวาหรือไซโก้เบอร์ 6
  • พันธุ์ MD2

สับปะรดที่ปลูกส่วนใหญ่ เพื่อการบริโภคผลสด และ การแปรรูปทางอุตสาหกรรมในประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของ สับปะรดภูแล รวมอยู่ด้วย

 

 

รู้จัก “สับปะรดภูแล”

  • สับปะรดภูแลเชียงราย  ชื่อภาษาอังกฤษ Chiangrai Phulae Pineapple) หรือในชื่อเรียก สับปะรดภูแล เป็นสับปะรดหรือในชื่อเรียก สับปะรดภูแล เป็นสับปะรดสายพันธุ์ในกลุ่มควีน ลูกเล็กและสามารถปลูกได้ตลอดปี ผล ขนาดเล็ก เนื้อสีทอง กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบ 
  • สับปะรดภูแล เป็นสับปะรดในกลุ่มควีนที่ได้ ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2548 เมื่อ พ.ศ.2520 นายเอนก ประทีป ณ ถลาง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้นำหน่อพันธุ์สับปะรดภูเก็ต จากจังหวัดภูเก็ตมาปลูกครั้งแรกที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ทำให้สับปะรดภูแลมีลักษณะที่แตกต่างจากสับปะรดภูเก็ต คือ ขนาดผลเล็ก มีน้ำหนักตั้งแต่ 0.15-1 กิโลกรัม จุกมีลักษณะชี้ตรว ตาผลเต่งตึง โปนออกมาจากผลอย่างเห็นได้ชัด เปลือกค่อนข้างหนา เหมาะสำหรับการขนส่งระยะไกล เมื่อสุกเปลือกผลจะมีสีเหลืองหรือเหลืองปนเขียว เนื้อสีเหลือง กรอบ กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบรับประทานได้ ปลูกได้ตลอดทั้งปี เก็บเกี่ยวเหลังจากออกดอกประมาณ 120-150 วัน ขึ้นกับฤดูกาล เรียกชื่อสับปะรดดังกล่าวว่า “สับปะรดภูแล” โดยการนำเอาชื่อ “ภูเก็ต” ซึ่งเป็นแหล่งปลูกเดิมมาผสมคำกับแหล่งปลูกใหม่ คือ “นางแล”

สับปะรดภูแล

ลักษณะสับปะรดภูแล

  • ผล ขนาดเล็ก มีน้ำหนักตั้งแต่ 150 กรัม – 1000 กรัม ความยาวของจุกโดยเฉลี่ย 1-1.5
  • เท่าของความยาวผล ตัวจุกมีลักษณะชี้ตรง
  • ตาผล ตาเต่งตึงโปนออกมาจากผลอย่างเห็นได้ชัด
  • เปลือก เปลือกค่อนข้างหนา เหมาะสำหรับการขนส่งระยะไกล เมื่อสุกเปลือกผลจะมีสีเหลืองหรือเหลืองปนเขียว
  • เนื้อ เนื้อสีเหลือง กรอบ กลิ่นหอม แกนสับปะรดกรอบ รับประทานได้
  • รสชาติ มีความหวานปานกลาง
  • ใบ ใบเรียวเล็ก สีเขียวอ่อนและมีแถบสีชมพูบริเวณกลางใบ ขอบใบมีหนามเรียงชิดติด
  • กันตลอดความยาวของใบ

ปัจจุบัน ได้มีการนำ สัปปะรดภูแล มาแปรรูปมากมาย ทั้ง เบเกอรี่ และ เครื่องดื่ม มากมาย ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์.