“อลงกรณ์” แนะทางสว่าง ไทยชิงตลาดต้นไม้ซาอุฯ 8.5 หมื่นล้าน

01 ก.ค. 2566 | 10:53 น.

สืบเนื่องจากซาอุดีอาระเบีย มีโครงการปลูกต้นไม้ 10,000 ล้านต้น และรวมภูมิภาคตะวันออกกลาง (กลุ่ม GCC) 50,000 ล้านต้น ตามข้อริเริ่ม “ซาอุดีอาระเบียสีเขียว” และ “ตะวันออกกลางสีเขียว”

ทั้งนี้จะเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกต้นไม้ไปยังซาอุฯและกลุ่ม GCC อีกเป็นจำนวนมาก และจะยังผลประโยชน์ตกกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของไทยตามมาอีกมหาศาล

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ "ข้อริเริ่มซาอุดีอาระเบียสีเขียว(SGI-Saudi Green Initiative)" และ “ข้อริเริ่มตะวันออกกลางสีเขียว(MGI-Middle East Green Initiative ” โดยส่งเสริมเกษตรกร ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(ศูนย์ AIC) ทั่วประเทศ และภาคเอกชนให้ผลิตต้นไม้ 38 ชนิดรวมทั้งเทคโนโลยีเกษตรที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งออกไปยังซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางโดยความร่วมมือกับกรมป่าไม้ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคเอกชน

จากก่อนหน้านี้ได้มีตามกรอบความร่วมมือไทย-ซาอุดีอาระเบีย ที่ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้หารือกับนายอับดุลเราะห์มาน บิน อับดุลมุห์สิน อัลฟัฎลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตร แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปลายเดือนกันยายนปี2565 ซึ่งนโยบาย Saudi Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย และโมเดล BCG ของไทยมีความสอดคล้องกัน

โดยเน้นการเสริมสร้างเศรษฐกิจที่มีความสมดุล รักษาสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเน้นการบูรณาการทรัพยากรธรรมชาติทั้ง 5 อย่าง ได้แก่ ระบบนิเวศ ดิน ป่าไม้ ที่ดิน และน้ำ ยึดหลักเกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เกษตรธรรมชาติ และวนเกษตร

“อลงกรณ์” แนะทางสว่าง ไทยชิงตลาดต้นไม้ซาอุฯ 8.5 หมื่นล้าน

ต่อข้อถามที่ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรฯในเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกรม กองใดบ้าง รวมถึงเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของกระทรวงอื่น และภาคเอกชนคือใครบ้างที่จะช่วยกันผลักดันโอกาสนี้ให้เป็นจริง นายอลงกรณ์ชี้ว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีสำนักงานปลัดกระทรวง กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน กรมประมง กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดินและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาเกษตรกรแห่งชาติ

ตลอดจนคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนแห่งชาติ คณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรโดยจะร่วมกันทำงานในโครงการนี้

สำหรับโครงการปลูกต้นไม้ของซาอุฯและกลุ่ม GCC จะเป็นโอกาสทองของไทยหลังจากมีการฟื้นความสัมพันธ์ขั้นปกติระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในต้นปี 2565 ที่ผ่านมา และรัฐมนตรีเกษตรฯได้มอบหมายให้ตนนำคณะกระทรวงเกษตรฯ ร่วมทีมเยือนซาอุดีอาระเบียโดยการนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายดอน ปรมัตถ์วินัย เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2565 และการเยือนไทยของรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม น้ำและเกษตรของซาอุดีอาระเบียในเดือนกันยายนปีเดียวกัน

“โครงการนี้จะเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพส่งออกต้นไม้อย่างน้อย 38 ชนิดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำไปยังซาอุดิอาระเบียและประเทศรอบอ่าวอาหรับ โดยในโครงการข้อริเริ่มซาอุดีอาระเบียสีเขียว(SGI-Saudi Green Initiative)” และ “ข้อริเริ่มตะวันออกกลางสีเขียว(MGI-Middle East Green Initiative ซึ่งซาอุดีอาระเบีย มีเป้าหมายปลูกต้นไม้ 10,000 ล้านต้น และภูมิภาคตะวันออกกลาง (กลุ่ม GCC) 40,000 ล้านต้น ซึ่งมีงบประมาณโครงการไม่น้อยกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(มากกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท)จะเป็นโอกาสสำหรับทุกภาส่วนที่เกี่ยวข้องของไทยอีกมาก”

อย่างไรฝันจะเป็นจริงได้ การขับเคลื่อนโครงการนี้ควรวางโครงสร้างและระบบเพื่อรับผิดชอบการดำเนินงานอย่างจริงจังต่อเนื่องได้แก่ 1.การจัดตั้งกลไกระดับประเทศในรูปของคณะกรรมการความร่วมมือโครงการ SGI และ MGI ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย โดยมีทุกภาคส่วนเป็นองค์คณะ 2.การทำบันทึกความร่วมมือ (MOU)ระหว่าง 2 ประเทศ 3.กำหนดหน่วยงานหลักหน่วยงานสนับสนุนให้ชัดเจน 4.จัดตั้งสำนักงานโครงการเพื่อขับเคลื่อน

“ความจริงซาอุดีอาระเบียภายใต้ซาอุดีวิชั่น2030(Saudi Vision 2030)ได้ศึกษาและกำหนดเป้าหมาย SGI และ MGI ในการปลูกต้นไม้ถึง 100,000 ล้านต้นไม่ใช่แค่ 50,000 ล้านต้น และต้องการลดคาร์บอน 670 ล้านตัน เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังมีโอกาสขยายความร่วมมือในอีกหลายโครงการสำหรับประเทศไทยเพราะตอนนี้มีข้อริเริ่มต่าง ๆ ถึง 77 ข้อริเริ่ม” นายอลงกรณ์ กล่าว