กรมการค้าภายในรุกซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้กว่า 7,500 ตัน ดันราคาสูง

24 เม.ย. 2566 | 11:25 น.

กรมการค้าภายในรุกซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้กว่า 7,500 ตัน ดันราคาสูง มุ่งช่วยเกษตรกรจังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก พร้อมขยายสู่พื้นที่อื่นต่อไป หากมีผลผลิตออกมากหรือล้นตลาด

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า คน.ได้ดำเนินการนำผู้ประกอบการเข้ารับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้ ในราคานำตลาด จากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่แหล่งผลิตขนาดใหญ่ ได้แก่ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก ปริมาณรวม 7,500 ตัน 

และจะขยายเข้ารับซื้อในจังหวัดอื่นเพิ่มเติม หากมีผลผลิตออกมากหรือล้นตลาด หวังช่วยหาตลาดรองรับผลผลิตให้กับพี่น้องเกษตรกร เช่น จัดให้มีการเปิด Pre-order มะม่วง ผ่านนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ และนำไปเปิดจุดจำหน่ายในห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ แหล่งชุมชนต่างๆ ที่ยังมีพื้นที่ให้ได้เข้าถึง เนื่องจากตลาดปลายทางมีความต้องการบริโภคมะม่วงสูง

อีกทั้ง ยังได้เตรียมความพร้อมจะให้มีการจัดงาน “Fruit Festival 2023” ปีที่ 2 เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้มีการบริโภคผลไม้เพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ จากการที่คน.ได้นำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตมะม่วงฟ้าลั่น ตั้งแต่ต้นฤดูและกระจายออกนอกแหล่งผลิตอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลให้ราคามะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด AB ปัจจุบันอยู่ที่ 20-25 บ./กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมา

กรมการค้าภายในรุกซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้กว่า 7,500 ตัน ดันราคาสูง

  • ที่ 15-20 บ./กก. เพิ่มขึ้น 29% มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด C ปัจจุบันอยู่ที่ 15-20 บ./กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมา
  • ที่ 10-15 บ./กก. เพิ่มขึ้น 40% มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรดส่งออก ปัจจุบันอยู่ที่ 40-50 บ./กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมา
  • ที่ 40-45 บ./กก. เพิ่มขึ้น 6% 
  • มะม่วงฟ้าลั่น ปัจจุบันอยู่ที่ 9-10 บ./กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 6-7 บ./กก. เพิ่มขึ้น 46%

นายกรนิจ กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมาคาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตมะม่วงในภาพรวมจะมีปริมาณรวม 1.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% คน.ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ลงพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตมะม่วง และได้เดินหน้าโครงการอมก๋อยโมเดลควบคู่ไปกับโครงการFruit Festival 2023พร้อมกัน 

เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลผลิตปี 2566 โดยได้นำผู้ประกอบการผู้ส่งออก และห้างค้าส่ง-ค้าปลีก จำนวน 12 ราย อาทิ แม็คโคร ,บิ๊กซี ,โลตัส ,เดอะมอลล์ ,ท็อปส์ ,บ. เรดเลม่อน ,บ. มิสเตอร์ฟรุ๊ตตี้ และบ. วันพิษณุโลก รับซื้อผลผลิตมะม่วงปริมาณกว่า 16,000 ตัน ในราคานำตลาด
 

จากเกษตรกร จำนวน 10 กลุ่ม 7 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ จ.พิจิตร กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วง อ.สากเหล็ก (ต.คลองทราย ต.วังทับไทร) อ.เมือง (ต.บ้านบุ่ง) อ.ดงเจริญ (ตำบลสำนักขุนเณร) อ.วังทรายพูน (ต.หนองปลาไหล ต.วังทรายพูน) และจ.พิษณุโลก กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วง อ.เมือง (ต.บ้านคลองวังเรือ) อ.วังทอง (ต.ชัยนาม) อ.เนินมะปราง (ต.บ้านวังน้ำบ่อ ต.บ้านลำภาศ) 

อีกทั้งยังได้เชื่อมโยงผู้ประกอบการในส่วนท้องถิ่น เช่น ชมรมทายาทท้องถิ่น เข้าไปรับซื้อมะม่วงจากเกษตรกร แล้วนำมาเปิดจุดจำหน่ายในห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ และเข้าไปรับซื้อเพื่อนำมาจำหน่ายในโมบายพาณิชย์ 100 จุดทั่วกรุงเทพฯด้วย และได้ดำเนินการเปิดจุดจำหน่ายภายใต้ชื่อ Fruit Festival 2023 ไปแล้ว ประกอบด้วย อุดรธานี และหนองคาย

นายกรนิจ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 โดยมีมาตรการทั้งสิ้น 22 มาตรการ ดูแลตั้งแต่การผลิต การตลาดในประเทศ ต่างประเทศ และด้านกฎหมาย เพื่อดูแลผลผลิตผลไม้ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 6.78 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3%

โดยได้เตรียมมาตรการหาตลาดล่วงหน้าไว้รวมกว่า 700,000 ตัน และตั้งเป้าผลักดันการส่งออกผลไม้สดและแปรรูป 4.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10% โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้ประกอบการผลไม้ ผู้แทนเกษตรกรห้างค้าปลีก-ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมัน โลจิสติกส์ สายการบิน ผู้แทนสถาบันการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมมาตรการดูแลผลไม้ ปี 2566 ไว้แล้ว