ผนึกพันธมิตร ผุด“ไทยมาร์ท” ปักธงศูนย์การค้าไทยแห่งแรกในซาอุฯ

25 มี.ค. 2566 | 08:04 น.

หลังจากปักธงตั้ง“ไทย มาร์ท บาห์เรน” ศูนย์การค้าไทยแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางสำเร็จ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ซึ่งตรงกับวันชาติของบาห์เรน

ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลงในเวลานี้ คนทั่วโลกรวมถึงชาวตะวันออกกลาง ได้กลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติอีกครั้ง ส่งผลให้มีชาวบาห์เรน รวมถึงชาวซาอุดิอาระเบียจากฝั่งตะวันออกที่มีพรมแดนติดกัน เข้าไปใช้บริการไทยมาร์ท บาห์เรน วันละกว่า 3,000 คน และในวันหยุดกว่า 5,000 คนต่อวัน

“อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์” หรือ “โทนี่”ประธานบริหาร เวก้า กรุ๊ปส์ และประธานศูนย์การค้าไทย มาร์ท บาห์เรน ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ณ วันนี้ไทย มาร์ท บาห์เรน ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง มีผู้ประกอบการสินค้าและบริการของไทยเข้าไปเช่าพื้นที่และเปิดให้บริการแล้วกว่า 80% ของพื้นที่ รวมมากกว่า 90 ราย ในกลุ่มสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น อัญมณีและเครื่องประดับ สกินแคร์ และเครื่องสำอาง การแพทย์และโรงพยาบาล ของตกแต่งบ้าน นวด สปา และอื่น ๆ

อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานบริหารเวก้า กรุ๊ปส์ และประธานศูนย์การค้าไทย มาร์ท บาห์เรน

  • เตรียมจัดแฟร์ใหญ่ในซาอุฯ

อย่างไรก็ดีล่าสุดจากที่ในปีที่ผ่านมา ไทยและซาอุดิอาระเบียได้ฟื้นความสัมพันธ์กันในทุกมิติในรอบ 32 ปี ทำให้ตลาดการค้าไทย-ซาอุฯกลับมาคึกคักอีกครั้ง เวก้า กรุ๊ปส์ ซึ่งเป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติได้เตรียมหลายแผนงานในการช่วยสนับสนุนตลาดการค้าและบริการของไทยในซาอุฯ รวมถึงในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2566 เตรียมจัดงาน Thai trade Exhibition Saudi Arabia 2023 ณ กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุฯ ซึ่งจะเป็นงานแสดงสินค้าไทยงานใหญ่งานแรกที่ทางกลุ่มจะไปจัดที่ซาอุฯ

 “ผู้ประกอบการไทยที่อยากเข้าตลาดซาอุฯ ไม่ควรพลาดสำหรับงานนี้ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารแฟชั่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สุขภาพและความงาม สปา แฟรนไชส์ บริการทางการแพทย์และโรงพยาบาล ท่องเที่ยว และอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาด และทำกำไรจากการขายสินค้าและบริการเข้าไปในซาอุฯและในภูมิภาคตะวันออกกลาง ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะเป็นช่วงสั่งของเพื่อนำไปจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ที่เป็นไฮซีซั่นของเทศกาลเฉลิมฉลอง ดังนั้นเราตั้งใจจัดงานเพื่อการนี้โดยเฉพาะ”

ผนึกพันธมิตร ผุด“ไทยมาร์ท” ปักธงศูนย์การค้าไทยแห่งแรกในซาอุฯ

  • จ่อผุดไทยมาร์ทแห่งที่ 2 ในตะวันออกกลาง

ขณะเดียวกันทางเวก้า กรุ๊ปส์ยังมีแผนตั้งไทย มาร์ท ในรูปแบบหรือโมเดลที่คล้ายกับไทย มาร์ทที่บาห์เรน ณ กรุงริยาด ของซาอุฯ ความคืบหน้าอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นของซาอุฯที่มีที่ดินอย่างน้อย 3 รายที่ให้ความสนใจที่จะร่วมเป็นพันธมิตร จากได้เห็นรูปธรรมความสำเร็จที่เกิดขึ้นของไทย มาร์ท บาห์เรน คาดปีนี้จะได้ข้อสรุป และเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ในปีหน้า เบื้องต้นไทย มาร์ท ที่ซาอุฯคาดจะมีพื้นที่ไม่ตํ่ากว่า 10,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 850-1,000 ล้านบาท ซึ่งสินค้าและบริการของไทยที่จะเข้าไปเปิดและให้บริการ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเดียวกับไทยมาร์ท ที่บาห์เรน

นอกจากนี้ในอนาคตหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยยังสามารถมาใช้สถานที่ของไทย มาร์ท ซาอุฯ ในการทำกิจกรรมการตลาดเพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ ระหว่างไทย-ซาอุฯได้ ซึ่งจะทำให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น และจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีทุนน้อยได้มาก

“เวก้า กรุ๊ปส์ ทำธุรกิจอยู่ในตะวันออกกลางในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน ซาอุฯ โอมาน คูเวต ซึ่งตะวันออกกลาง ณ วันนี้ เป็นประเทศเปิดสำหรับชาวต่างชาติ และมีโอกาสทางธุรกิจมากมายรออยู่ ที่สำคัญเขาให้การตอบรับสินค้าไทยดีมาก”

ไทย มาร์ท บาห์เรน

  • หลายโปรเจ็กต์พร้อมลุย

 ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทางเวก้า กรุ๊ปส์ ได้เข้าไปช่วยหาช่องทางในการกระจายสินค้าไทย ทั้งการจัดงานแสดงสินค้าในหลายประเทศ การจัดตั้งไทย มาร์ท บาห์เรน ที่ช่วงซัมเมอร์นี้เตรียมจัดงานเอเชี่ยน วิลเลจ เฟสติวัล และในปีนี้เตรียมจัดงานแสดงสินค้าไทยที่ซาอุฯ ในเดือนสิงหาคม และงานแสดงสินค้าไทยในประเทศโอมานช่วงต้นเดือนธันวาคม การเตรียมจัดตั้งไทย มาร์ท ซาอุดิอาระเบีย รวมถึงมีแผนงานการจัดตั้ง Thai Mini Mart หรือไทยมาร์ทแบบย่อส่วนในซาอุฯ ที่เวลานี้มีนักลงทุนท้องถิ่นพร้อมมาร่วมเป็นผู้ลงทุนหลายราย

นอกจากนี้แผนจัดทำโครงการเอเชี่ยน วิลเลจที่ซาอุฯในลักษณะตลาดนํ้า ที่ก่อนหน้านี้เคยจัดที่ไทยมาร์ท บาห์เรนมาแล้วครั้งหนึ่ง และประสบความสำเร็จมาก สามารถช่วยผู้ประกอบการไทยที่ไปเข้าร่วมงานทำรายได้จากการขายตลอดการจัดงานจำนวนมาก แผนงานทั้งหมดจะเป็นโอกาสสำหรับสินค้าและบริการของไทยในการเจาะตลาดตะวันออกกลางได้เพิ่มขึ้นอีกมหาศาลในอนาคต