ไม่รอด "สารวัตรบีเกิ้ล” จับคาด่านสุวรรณภูมิซุก “ค้างคาวรมควัน”

10 พ.ย. 2565 | 03:03 น.

มาอีกแล้ว "นักท่องเที่ยว" เปิบพิสดารซุกค้างคาวรมควัน รวมทั้งเนื้อหมูแปรรูปเข้าไทย ไม่พ้นจมูก “สารวัตรบีเกิ้ล” จับด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อธิบดีกรมปศุสัตว์ห่วงเป็นพาหะโรคติดเชื้อทั้งไวรัสนิปาห์และอหิวาต์แอฟริกาในสุกร จึงอายัด ทำลายตามระเบียบ

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า  ชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินำ “สารวัตรบีเกิ้ล” ออกปฏิบัติงานตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ ทั้งขาเข้าและขาออกบริเวณอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ไต้หวัน ลาว เวียดนาม และจีน

 

ไม่รอด "สารวัตรบีเกิ้ล” จับคาด่านสุวรรณภูมิซุก “ค้างคาวรมควัน”

 

ล่าสุด “สารวัตรบีเกิ้ล” ตรวจพบสัมภาระต้องสงสัยจากเที่ยวบินที่มาจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เจ้าหน้าที่จึงเปิดออกตรวจโดยละเอียด พบว่า ได้ซุกซ่อนซากสัตว์เข้ามาดังนี้

- ค้างคาวรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม

- ขาหมูรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม

- หมูสามชั้นรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม

 

ไม่รอด "สารวัตรบีเกิ้ล” จับคาด่านสุวรรณภูมิซุก “ค้างคาวรมควัน”

 

สำหรับการลักลอบนำซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่จึงอายัดและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติทำลายตามระเบียบกรมปศุสัตว์ เพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จากซากสุกร ซึ่งโรค ASF เป็นโรคติดเชื้อในสุกร และโรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ที่มีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค โดยเชื้อไวรัส นิปาห์จะก่อให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงของระบบหายใจ เกิดภาวะสมองอักเสบจนอันตรายถึงชีวิตได้

 

ไม่รอด "สารวัตรบีเกิ้ล” จับคาด่านสุวรรณภูมิซุก “ค้างคาวรมควัน”

 

ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ขอให้ประชาชนรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกและไม่รับประทานสัตว์แปลก เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคดังกล่าว.