‘ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้’ กางแผน 5 ปี ทุ่ม 6 พันล้าน เพิ่มพอร์ตโฟลิโอ 75 โรงแรมทั่วโลก

01 ธ.ค. 2568 | 22:34 น.

การท่องเที่ยวไทยในปีนี้จะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ ‘ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้’ ก็ยังฝ่าความท้าทาย บริหารธุรกิจจนเติบโตได้ แม้ว่าจะต้องเลื่อนเปิดตัวกองรีท ออกไปเป็นกลางปีหน้า และบริษัทยังมองโอกาสในการขยายโรงแรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้า ภายใต้การลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท “ยุทธชัย จรณะจิตต์” ซีอีโอ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ เปิดใจถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่จะเกิดขึ้น

KEY

POINTS

  • ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ วางแผนธุรกิจ 5 ปี (2569-2573) ด้วยงบลงทุน 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายพอร์ตโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ให้มีมากกว่า 75 แห่งทั่วโลก
  • กลยุทธ์การขยายธุรกิจจะมุ่งเน้นการร่วมทุน (Joint Venture) และการรับบริหารโรงแรม โดยมีโครงการหลักที่กำลังดำเนินการในภูเก็ตและพัทยา
  • มีแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศ เช่น การนำแบรนด์ชามาไปเปิดในมาเลเซีย และเตรียมเปิดตัวกองทรัสต์ (REIT) เข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วงกลางปี 2569

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าว่า ขณะนี้บริษัทได้วางแผนการขยายธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2569 ถึงปี 2573) โดยตั้งงบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาทในการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอ

ซึ่งจะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจผ่านโครงการร่วมทุน (Joint Venture - JV) จำนวน 2-3 โครงการหลัก รวมถึงการรับบริหารโรงแรม เพื่อเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและรองรับการขยายตัวในอนาคต 

ออนิกซ์ วางเป้าหมายเพิ่มจำนวนโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ให้ได้มากกว่า 75 แห่งทั่วโลก ภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่มีทรัพย์สินเปิดให้บริการแล้ว 49 แห่งใน 6 ประเทศ การขยายธุรกิจนี้จะเป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างกำไรและป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากการเติบโตที่รวดเร็วเกินไป ทั้งนี้โครงการร่วมทุนหลักๆที่กำลังดำเนินการ ได้แก่

1.โครงการรีสอร์ตหรู ภูเก็ต ซึ่งออนิกซ์ จะร่วมมือกับ EQ บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากมาเลเซีย มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,600 ล้านบาท โดยออนิกซ์ จะถือหุ้น 51% โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดที่หาดกะตะ ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 150-170 ห้อง ในรูปแบบวิลล่า  ขณะนี้การออกแบบโครงการเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว 80-90% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2571

2. โครงการ ชามา (Shama) เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ พัทยา เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่ออนิกซ์ มุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาโครงการ โดยออนิกซ์ ถือหุ้น 51% ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกับโรงแรมอมารี และ โอโซ (OZO) พัทยา

นายยุทธชัย จรณะจิตต์

โดยบริษัทจะเช่าที่ดินเพิ่มประมาณ 3 ไร่ เป็นระยะเวลา 30 ปี เพื่อสร้างห้องพัก 150 ยูนิต  เนื่องจากมองว่าจุดเด่นของแบรนด์ Shama คือความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้แบรนด์นี้ได้รับการยอมรับในตลาด การขยายตัวของ Shama ในพัทยาจึงเป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดการท่องเที่ยวและที่พักอาศัยระยะยาว

ในขณะเดียวกัน บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายโรงแรมอมารี สมุย โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องการเช่าที่ดินเพิ่มเติม เพื่อขยายพื้นที่ของโรงแรมให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคตได้ โดยการขยายโรงแรมนี้จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์อมารี (Amari) ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

ทั้งยังมีแผนที่จะมองหาโครงการร่วมทุนเพิ่มเติมอีก 2 โครงการในปีหน้า ในทำเลที่มีศักยภาพสูง เช่น ภูเก็ตและพัทยา บริษัทยังคงเน้นการทำโครงการที่เป็นของตนเอง ควบคู่ไปกับการรับบริหารจัดการโรงแรม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในระยะยาว

ส่วนแผนธุรกิจในต่างประเทศ โรงแรมที่ฮ่องกงไปได้ดี ขณะนี้มี 10 กว่าแล้ว ด้านโรงแรมในมาเลเซีย ก็เติบโตดี ทั้งในปีหน้าก็มองหาโลเคชั่นใหม่ในมาเลเซีย เพื่อขยายโรงแรมโดยจะนำแบรนด์ชามา เข้าไปขยายตลาด ขณะที่โรงแรมในประเทศลาวก็ยังเติบโตได้ดี 

รอจังหวะเปิดตัวกองรีท กลางปีหน้า

นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัท ก็รอจังหวะในการเปิดตัวกอง REIT (กองทรัสต์เพื่ออสังหาริมทรัพย์) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม 2569 จากเดิมที่มีแผนจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้

แต่จากการประเมินสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่กลับมาอย่างที่คาดหวัง จึงได้เลื่อนออกกองรีทมาเป็นปีหน้าแทน เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมของตลาดทุนรวมไปออนิกซ์ จะฉลองครบรอบ 60 ปี จึงวางกลยุทธ์ในการขยายแบรนด์และธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาแบรนด์ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง

โดยมีแผนการ รีเฟรชแบรนด์ต่างๆ เช่น Amari และ OZO เพื่อดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่และเสริมสร้างฐานลูกค้าใหม่ และยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยีในยุคดิจิทัล โดยมีแผนจัดตั้ง Academy เพื่อพัฒนาความสามารถของบุคลากร และนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในโครงการ Tech for Tomorrow เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การพัฒนาระบบ CRM ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยปัจจุบันระบบนี้มีสมาชิกอยู่ราว 1.5 แสนราย ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอีกด้วย

‘ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้’ กางแผน 5 ปี ทุ่ม 6 พันล้าน เพิ่มพอร์ตโฟลิโอ 75 โรงแรมทั่วโลก

ปีนี้แม้ปัจจัยท้าทายมากแต่รายได้ยังโต

ในด้านการดำเนินธุรกิจในปีนี้ นายยุทธชัย มองว่า เป็นปีที่ท้าทายสำหรับออนิกซ์ เนื่องจากต้องเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ที่มีหลายปัจจัยทับซ้อนกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวลดลง ประกอบกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่เต็มที่ตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ยอดการจองโรงแรมมีความไม่แน่นอนและลดลงอย่างชัดเจนในบางช่วง

ส่วนไตรมาส 4 ปีนี้ เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในทำเลหลักอย่างกรุงเทพฯ และภาคใต้ ที่ยังมีดีมานด์ท่องเที่ยวที่แข็งแรงประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เขาย้ำว่าแม้ธุรกิจจะเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แต่บริษัทก็ยังสามารถประคับประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้จากการบริหารจัดการที่ดี และการกระจายพอร์ตทรัพย์สินไปยังหลายทำเลที่สำคัญ

ออนิกซ์ได้ขยายการพึ่งพาไปยังตลาดใหม่ๆ นอกเหนือจากตลาดจีน เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และอาเซียน การขยายฐานลูกค้าในตลาดเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มการเข้าถึงลูกค้ารายใหม่เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความมั่นคง ทำให้รายได้รวมของกลุ่มที่ยังคงเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในช่วงที่ตลาดท่องเที่ยวจีนกลับมาช้ากว่าที่คาดการณ์      

อีกทั้งหากมองเป็นรายพื้นที่ ตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ และพัทยาในปีนี้ ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูง ออนิกซ์ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์การรักษามาตรฐานราคาและคุณภาพของห้องพัก โดยจะไม่ลดราคาผ่านการโปรโมทหรือแข่งขันด้านราคา เหมือนคู่แข่ง

ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทเชื่อว่าจะสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว ขณะที่ตลาดที่เติบโตโดดเด่น คือ ภูเก็ตและสมุย โดยเฉพาะสมุยที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวและความนิยมของซีรีส์ไวท์โลตัส ส่งผลให้สมุยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

การเติบโตของสมุยและภูเก็ตทำให้ ออนิกซ์ มองว่าเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยบริษัทตั้งใจที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าระดับ Luxury ที่มีกำลังซื้อสูงจากตลาดระยะไกล เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และอิสราเอล ซึ่งมักจะพร้อมจ่ายในราคาห้องพักที่สูงกว่า

ปัจจุบันราคาเฉลี่ยของห้องพักออนิกซ์อยู่ที่ประมาณ 3,000-6,000 บาทต่อคืน การขยายตลาดไปยังกลุ่ม Long-Haul ที่มีอำนาจการซื้อสูง จะช่วยให้ราคาเฉลี่ยของห้องพักเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ จากการดึงดูดลูกค้าระดับสูงที่พร้อมจ่ายในราคาที่สูงกว่าทั้งหมดล้วนเป็นทิศทางการดำเนินธุรกิจของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,154 วันที่ 4 - 6 ธันวาคม  พ.ศ. 2568