KEY
POINTS
นายพีรวัส หาญศิริกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท รูมเควสท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการยกระดับการบริหารจัดการโรงแรม โดยผสานระบบอัตโนมัติด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI Automation) อย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ ถือเป็นเครือโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) มาขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับออบเซียน เทคโนโลจีส์ (Opsian Technologies) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจโรงแรม ชึ่งเป็นเป้าหมายของอุตสาหกรรมการบริการระดับโลก
โดยระยะแรกจะเริ่มใช้ในบางส่วนของธุรกิจในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 และคาดว่าจะพร้อมใช้งานอย่างเต็มรูปแบบครบทุกโรงแรมในเครือในเดือนเมษายน 2569
“เอไอ ควรเป็นปัจจัยของการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรม ทั้งในเรื่องการช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทฑิภาพ”
สำหรับการนำเอไอเข้ามาใช้ดังกล่าว เป็นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การออกแบบระบบที่ช่วยขยายธุรกิจได้ รวมถึงการขยายแบรนด์ในระยะยาว เพื่อให้โรงแรมพันธมิตรจะได้รับประโยชน์ ภายใต้ภูมิทัศน์ของธุรกิจการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
นายพีรวัส กล่าวอีกว่า หากสามารถลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนและใช้ข้อมูลเป็นแนวทางหลักในการตัดสินใจ อุตสาหกรรมโรงแรมในประเทศไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้นมาก รวมถึงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการท่องเที่ยวของไทย และระบบเศรษฐกิจไทยในภาพรวม เรียกว่าขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังรักษากำลังคนเท่าเดิมไว้ ทำให้การเติบโตของธุรกิจมีความยั่งยืนมากขึ้น
สำหรับระบบนิเวศเอไอของบริษัทจะครอบคลุมการดำเนินงานหลัก เช่น การจัดการรายได้และราคาด้วยเอไอ ,ระบบอัตโนมัติสำหรับการดูแลทำความสะอาดและตรวจสอบห้องพัก และการวิเคราะห์ความคิดเห็นและรีวิวลูกค้าด้วยเอไอ เป็นต้น
ขณะที่กลยุทธ์การขยายตัวของบริษัทในปี 69 จะมุ่งเน้นดำเนินการตามแผนงานระดับโลกที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบ ยกระดับการขยาย และจำลองรูปแบบธุรกิจโรงแรมที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่บริษัทจะพัฒนาระบบปฏิบัติการ บรรลุประสิทธิภาพและสร้างรายได้ที่วัดผลได้ เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับการนำไปใช้งานในสาขาอื่นทั่วโลก
ซึ่งจะเริ่มต้นขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค ที่ประเทศมาเลเซียที่พฤติกรรมการเดินทางและรูปแบบของ OTA มีความคล้ายคลึงกัน ช่วยให้สามารถนำไปใช้และจำลองการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นบริษัทจะเข้าไปรุกตลาดดูไบ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในตลาดระดับพรีเมียมและขยายขีดความสามารถของ AI ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวหลายภาษา จากนั้นในระยะต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่สหรัฐอเมริกา โดยเน้นไปที่การนำเสนอโซลูชันระดับองค์กรที่พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับกลุ่มโรงแรมที่มีอัตรากำไรสูง
หลังจากนั้นบริษัทจะขยายธุรกิจต่อเนื่องไปยังทวีปอเมริกาใต้ตั้งแต่ปี 2570 ผ่านการใช้เอไอเฉพาะพื้นที่ (Localized AI) การผสานรวม PMS ระดับภูมิภาค และการร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแรมระดับกลาง โดยในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการปรับให้เข้ากับท้องถิ่น การปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด รวมถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนและต่อเนื่องทั่วโลก
นอกจากนี้ บริษัทจะร่วมมือกับ อีหลง (Elong) ในการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ด้วยการผสานรวมโดยตรงกับระบบนิเวศของ WeChat และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง รูมเควสท์จึงพร้อมวางตำแหน่งตนเองเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมไทยกลุ่มแรกๆ ที่สามารถเชื่อมโยงธุรกิจบริการในท้องถิ่นเข้ากับความต้องการด้านการท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่มหาศาลของจีนได้อย่างแท้จริง ความร่วมมือนี้ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทว่ายังกำหนดนิยามใหม่ให้กับวิธีที่โรงแรมของไทยสามารถขยายธุรกิจไปสู่ระดับสากลได้