วันนี้ (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568) โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ได้เผยถึงความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนอย่างโดดเด่นในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมตอกย้ำบทบาทผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 (Net Zero 2050)
รวมถึงการจัดหาเงินกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan) และออกตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) รวมไปถึงหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) รวมมูลค่ากว่า 8,786 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย ESG และสนับสนุนการลงทุนโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ทั้งนี้เซ็นทาราได้กำหนดทิศทางและพัฒนาหลักปฏิบัติงานในระยะยาว ภายใต้กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนที่เรียกว่า C-E-N-T-A-R-A Sustainability Blueprint ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้การเติบโตของธุรกิจดำเนินควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชนอย่างสมดุล
ด้านสิ่งแวดล้อม
เซ็นทารามุ่งมั่นบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ อันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สำคัญในระยะยาว ดังนี้
เซ็นทาราตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องพักที่มีการใช้งาน ลง 40% ภายในปี 2029 เทียบจากปีฐาน 2019 ปัจจุบันปล่อยก๊าซเรือนกระจก 31.53 kgCO2e ต่อห้องพักที่มีการใช้งานลดลงได้แล้วกว่า 35% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโรงแรมในไทยตาม Cornell Hotel Sustainability Benchmarking (CHSB) Index ถึง 51.94%
ทั้งนี้ เซ็นทาราตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 (Net Zero 2050) โดยได้กำหนด 3 พันธกิจหลักในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ดังนี้
เซ็นทารามุ่งมั่นในการขับเคลื่อนพลังงานหมุนเวียนและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
พลังงานหมุนเวียน: ได้มีการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) เสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด 14 โรงแรม ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 2,970 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 300,000 ต้น นอกจากนี้ ในปี 2025 (ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนตุลาคม) สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดรวม 4,780 MWh คิดเป็น 4% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
การประหยัดพลังงาน: ปรับปรุงระบบประหยัดพลังงานต่างๆ เช่น Smart Sensor, Energy Management System (EMS) และ Building Management System
การบริหารจัดการน้ำ: ประสบความสำเร็จในการลดการใช้น้ำได้ 30.08% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 20% เมื่อเทียบจากปี 2019 และในปี 2025 มีการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ในการรดน้ำต้นไม้ภายในโรงแรมรวมกว่า 454,416 ลูกบาศก์เมตร
การจัดการขยะ: สามารถลดขยะไปสู่หลุมฝังกลบได้ 24.52% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20% และมีอัตรารีไซเคิลเฉลี่ย 28.85% นอกจากนี้ ยังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากขยะพลาสติก เช่น กระเป๋าและหมวก Upcycling จากขวด PET รวมกว่า 3,872 กิโลกรัม จาก 4 โรงแรมในจังหวัดกระบี่
ด้านสังคมและชุมชน (Social)
นอกจากเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เซ็นทารายังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ผ่านโครงการสำคัญ อาทิ:
การจัดการขยะอาหาร: ตั้งแต่ปี 2017 มีการส่งต่ออาหารส่วนเกินคุณภาพดีสู่ชุมชน โดยร่วมมือกับมูลนิธิ Scholars of Sustenance Thailand (SOS) เพื่อแก้ปัญหาความหิวโหยและจัดการปัญหาขยะอาหาร
สนับสนุนสินค้าชุมชน: จัดทำโครงการ 1 โรงแรม 1 ผลิตภัณฑ์ และ Community Market เพื่อช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชนกว่า 6,000 ชิ้น และจัดสรรพื้นที่รวมกว่า 6,300 ตารางเมตร ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในโรงแรมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
โอกาสทางอาชีพ: เสริมสร้างโอกาสทางอาชีพให้แก่กลุ่มเปราะบาง โดยมีอัตราการจ้างงานผู้พิการเกินกว่ากฎหมายการจ้างงาน รวมถึงมีการจ้างงานผู้สูงอายุด้วย
ด้านธรรมาภิบาล (Governance)
เซ็นทารามุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างโปร่งใส รับผิดชอบ และมีจริยธรรม โดยได้รับการประเมินมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) ตั้งแต่ปี 2559
เซ็นทาราเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Collective Action Coalition - Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption: CAC) ตั้งแต่ปี 2559 และผ่านการรับรองการต่ออายุการเป็นสมาชิกต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 และ ได้รับรางวัล CAC Change Agent Award ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในการชักชวนคู่ค้าเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย
นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า ความสำเร็จจากการได้รับการรับรองมาตรฐาน GSTC ครบทั้ง 42 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปีนี้ตามเป้าหมายของเซ็นทารา รวมถึงผลลัพธ์ด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเซ็นทาราในระยะยาว
ทั้งเซ็นทาราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย ESG ในมิติต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย และสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนต่อไป เพราะเราเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจต้องเดินควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชนที่เราเป็นส่วนหนึ่ง เราจึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตขึ้นอย่างสมดุล