สมาคมโรงแรมไทย ร้องนายกฯ ตีกลับมติบอร์ดค่าจ้าง ขอยกเลิกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท

23 มิ.ย. 2568 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2568 | 08:26 น.

สมาคมโรงแรมไทย ร้องนายกรัฐมนตรี พิจารณาส่งเรื่องกลับไปยังคณะกรรมการไตรภาคี ทบทวนมติและพิจารณายกเลิกการกำหนดปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉพาะกลุ่มอาชีพ ทั้งขอให้พิจารณานโยบายในภาพรวมที่สะท้อนความเป็นธรรมและความสามารถในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในทุกระดับ

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าตามที่กระทรวงแรงงานและคณะกรรมการไตรภาคี ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพภาคบริการ และอุตสาหกรรมโรงแรม ส่งผลต้นทุนค่าจ้างพนักงานโรงแรมเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15%  โดยเฉพาะในบางจังหวัดที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาก เป็นการซ้ำเติมธุรกิจ

เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์

อีกทั้งสิ่งที่เสียใจมากๆ คือ ค่าแรงขั้นต่ำควรจะสะท้อนค่าครองชีพ และควรปรับค่าแรงขั้นต่ำอย่างทั่วถึง ไม่ควรที่จะเลือกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง ซึ่งไม่ยุติธรรมกับทั้งผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการ       

จากผลกระทบที่เกิดขึ้นทางสมาคมโรงแรมไทย จึงได้ทำหนังสือถึง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เฉพาะกลุ่มอาชีพในภาคบริการ และอุตสาหกรรมโรงแรม โดย ตามที่กระทรวงแรงงานและคณะกรรมการไตรภาคี ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพภาคบริการ และอุตสาหกรรมโรงแรม ได้แก่ โรงแรมตั้งแต่ระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักตั้งแต่ 50 ห้องขึ้นไป รวมถึงสถานบริการอื่นๆ นั้น สมาคมโรงแรมไทย มีความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมติดังกล่าว ด้วยเหตุผลหลัก ดังต่อไปนี้

 1.ภาวะการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย กำลังเผชิญกับภาวะจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตลาดหลักในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน มาเลเซีย และรัสเชีย ทั้งยังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก

รวมถึงประเด็นด้านความปลอดภัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้รายได้ของผู้ประกอบการโรงแรมลดลง ขณะเดียวกันต้นทุนด้านวัตถุดิบ ค่าพลังงาน และแรงงานก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากอยู่แล้ว การขึ้นค่าแรงในช่วงเวลานี้จะซ้ำเติมภาระผู้ประกอบการและส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ

 2.การกำหนดขึ้นค่าแรงเฉพาะกลุ่มอาชีพถือเป็นความไม่เป็นธรรม การปรับขึ้นค่าแรงเฉพาะกลุ่มอาชีพ เช่น โรงแรมตั้งแต่ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรมที่มีห้องพักเกิน 50 ห้อง ส่งผลให้เกิดความไม่เท่าเพื่อมระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งยังยังสร้างแรงใจในทางลบที่อาจทำให้ผู้ประกอบการบางรายไม่ประสงค์ขอใบอนุญาตโรงแรม หรือลดการพัฒนาและยกระดับมาตรฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกำหนดดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพและศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรวม

3.กระทบต่อการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดท่องเที่ยวโลก การเพิ่มภาระดันทุนเฉพาะกลุ่มโดยไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและอุปสงค์ของตลาด อาจทำให้ประเทศ ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

ดังนั้นสมาคมโรงแรมไทยจึงขอให้นายกรัฐมูนตรี พิจารณาส่งเรื่องกลับไปยังคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อทบทวนมติและพิจารณายกเลิกการกำหนดปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉพาะกลุ่มอาชีพ และขอให้พิจารณานโยบายในภาพรวมที่สะท้อนความเป็นธรรมและความสามารถในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในทุกระดับ