วันนี้ (วันที่ 23 มิถุนายน 2568) สายการบินระหว่างประเทศหลายแห่งได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปยังเมืองสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลาง อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน
สายการบิน บริติซ แอร์เวย์ส ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดไปและกลับจากนครดูไบและกรุงโดฮา ขณะที่สายการบิน สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์และดูไบ ภายหลังการประเมินสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในภูมิภาค
ขณะที่สายการบิน แอร์ฟรานซ์ ยกเลิกเที่ยวบินไปยังดูไบและกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าสายการบิน แอร์ แคนาดา , ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส, เคแอลเอ็ม และ ตรุกี แอร์ไลน์ ได้ยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินในภูมิภาคตะวันออกกลางเช่นกัน
องค์การ Safe Airspace ซึ่งดำเนินการโดย OPSGROUP ซึ่งเป็นหน่วยงานติดตามและแจ้งเตือนภัยคุกคามทางการบิน ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า การโจมตีของสหรัฐอเมริกาในพื้นที่โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสายการบินสัญชาติสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติการในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้เปิดน่านฟ้าเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถทำการอพยพประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ในต่างประเทศกลับประเทศ หลังจากที่มีการปิดน่านฟ้ามาตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน เนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับอิหร่าน
สถานการณ์ในภูมิภาคยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยหน่วยงานด้านการบินและสายการบินต่าง ๆ ยังคงประเมินความเสี่ยงและปรับแผนการบินอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและลูกเรือ
ขณะที่นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยไม่ได้เปิดเที่ยวบินไปตะวันออกกลาง จึงยังไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ แต่ยังต้องจับตาดูทิศทางของราคาน้ำมันที่อาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นขณะนี้ราคาน้ำมันยังอยู่ในเกณฑ์ที่การบินไทยคาดไว้ ยังไม่ได้ส่งผลกระทบ